ไทยพร้อมแล้วหรือไม่? กับสังคมผู้สูงอายุ

Araya 1 Sep 2017

ผลกระทบที่เกิดขึ้น เมื่อไทยเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ

ไฮไลท์…
– ผู้สูงอายุมากขึ้น เด็กเกิดลดลง ส่งผลให้อัตราแรงงานหดตัว ไปพร้อมเศรษฐกิจที่ชะลออย่างต่อเนื่อง
– ภาคธุรกิจอสังหาฯ แสวงหากำไรจากธุรกิจ Home Care ในช่วงไทยเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ
– ความต้องการของคนไทย อยากมีบั้นปลายใช้ชีวิตผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านมากกว่าสถานที่พักพิง

(สกู๊ปพิเศษ) ปัจจุบันพบว่าไม่ใช่แค่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น ที่พบประชากรผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น แต่ดูเหมือนแนวโน้มของทั่วโลกกำลังตกอยู่ในภาวะนี้ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นที่มีประชากรผู้สูงอายุสูงที่สุดในโลก จนทำให้เกิดแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับบุคคลดังกล่าว พร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ เหตุนี้เองจึงทำให้ไทยที่กำลังเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จึงเตรียมการรับมือหลายภาคส่วน พร้อมศึกษาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อคุณภาพชีวิตของประชากรผู้สูงอายุในไทย

Aging Society

กราฟแสดงการเติบโตของกลุ่มผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น

ผลกระทบด่านปราการแรก เมื่อดัชนีประชากรผู้สูงอายุพุ่งสูง
แม้สังคมไทยจะเข้าสู่ยุคผู้สูงวัยช้ากว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นและอเมริกา แต่ถึงกระนั้นกับพบว่าปัจจุบันระดับประชากรกลุ่ม Baby Boomers (กลุ่มคนที่เกิดตั้งแต่พ.ศ. 2489 – 2507) ในประเทศไทยได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเพศหญิง นับตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา โดยมีประชากรอายุ 65 ขึ้นไป ในสัดส่วนร้อยละ 7 ของประชากรทั้งหมด ประกอบกับยังมีแนวโน้มว่าจะพุ่งขึ้นอีก 20% และเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุเต็มตัวในปี 2564 หรืออีกประมาณ 4 ปีข้างหน้า ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นเป็นเพราะอัตราการตายและเกิดมีแนวโน้มลดต่ำลง ประกอบกับกลุ่มคนในปัจจุบันโดยเฉพาะรุ่น Gen Y (กลุ่มคนที่เกิดตั้งแต่พ.ศ. 2508 – 2522) เริ่มไม่นิยมมีครอบครัว มักครองตัวเป็นโสดมากขึ้น โดยสาเหตุดังกล่าวอาจเป็นมาจากปัจจัยค่านิยมเรื่องการศึกษาที่สูงขึ้น จนทำให้มองเรื่องการสร้างครอบครัวไม่ใช่สิ่งจำเป็นเท่ากับหน้าตาทางสังคม หรือแม้แต่การดูแลใส่ใจสุขภาพ

ทั้งนี้เมื่อประชากรกลุ่มวัยชราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าผลกระทบด่านปราการแรกจะทำให้อัตราการเกิดน้อยลง ส่งผลให้อัตราแรงงานหดตัวเพิ่ม และผลลัพธ์ที่ได้ตามมาคือ ภาวะขาดแคลนแรงงาน ส่งผลให้ประชากรแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น อันนำไปสู่อีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้ภาครวมของเศรษฐกิจชะลอตัวตามมา เหตุนี้เองจึงทำให้หลายภาคส่วนต่างแสดงความกังวลกับการก้าวผ่านของประเทศไทยให้เข้าสู่ยุคสังคมผู้อายุ

อสังหาฯ เตรียมการไทยเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ
ดูเหมือนการเตรียมความพร้อมให้ไทยเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจนั้นกลายเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต้องจับมือร่วมกัน ทั้งการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับบุคคลดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค สวางคนิเวศ สภากาชาดไทย และของหน่วยงานเอกชนมากมาย เพื่อรองรับการเพิ่มสูงขึ้นของประชากรกลุ่มดังกล่าว แต่ใช่ว่าจะตอบโจทย์กลุ่มคนไทย เนื่องจากสังคมไทยมองว่าผู้สูงอายุในครอบครัวควรอยู่บ้านกับลูกหลาน เหตุนี้บรรดาผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จึงมองเห็นช่องทางใหม่ๆ ในการเพิ่มธุรกิจดังกล่าวให้รองรับผู้อยู่อาศัยกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบดีไซน์รูปแบบบ้านให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้สูงอายุ รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลาง และยิ่งไปกว่านั้นการทำธุรกิจ Home Care ที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์ สร้างความสะดวกสบายมากกว่า Nursing Home ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพกลุ่มผู้สูงอายุในระดับสูง เทียบเท่ากับโรงพยาบาลชั้นนำ อันต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง ประกอบกับผู้อยู่อาศัยกลุ่มนี้ในสังคมไทย ยังไม่นิยมเท่าไรนัก

Villa Meesuk Residence

Villa Meesuk Residence สถานที่พักพิงของผู้สูงอายุ ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากทางภาคเอกชน ภาพ via villameesukresidences.com

Senior Living ทางเลือกใหม่ของผู้สูงอายุในไทยจริงหรือ
แม้หลายภาคส่วนจะตื่นตัวกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ จนทำให้เกิด Senior Living จำนวนมาก ทั้งนี้หากเป็นการพัฒนาจากภาคเอกชนมักมีราคาค่อนข้างสูงหรือราวประมาณ 40,000 บาท/เดือน เรียกได้ว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับกลุ่มคนชนชั้นกลางหรือระดับบน ซึ่งสวนกระแสกับสังคมไทยที่ยังพบว่ามีประชากรผู้สูงอายุระดับล่างค่อนข้างเยอะสำหรับในรุ่น Baby Boomers แม้ในกลุ่ม Gen Y ที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุในอนาคตอันใกล้ จะเตรียมความพร้อมด้านฐานะทางการเงินในวัยเกษียณ ซึ่งควรมี 3-7 ล้านบาท/คน แต่ถึงกระนั้นกับพบว่าอยากอยู่ในพื้นที่บ้านตนเองมากกว่าสถานที่ Home Care อันเป็นบ้านพักพิงสำหรับผู้สุงอายุ

การก้าวผ่านของเมืองไทยเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ แน่นอนอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อการขาดแคลนแรงงาน แต่ถ้าหากมีการบริหารจัดการที่ดี เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ แต่ทั้งนี้เรื่องที่กับน่าเป็นห่วงและจำเป็นต้องจับตาดูต่อไปคือ การพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับกลุ่มผู้สูงอายุ อันต้องสอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวในเมืองไทย ซึ่งยังพบว่าต้องการอยู่บ้านของตนเองมากกว่าสถานที่พักพิง ดังนั้นหากมีการปรับรูปแบบของ Home Care ด้วยวิธีปรับปรุงบ้านตัวเองให้รองรับการอยู่อาศัยผู้สูงวัย เหมือนดังเช่นกับประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะตอบสนองความต้องจากผู้สูงอายุได้ ประกอบกับยังช่วยให้ไทยสามารถเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุสมบูรณ์แบบอีกด้วย

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

POST COMMENT

You may also like these articles

“เมื่อคิดต้องทำ…เมื่อคันต้องเกา” นโยบายเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ

พูดกันถึงประเด็น ที่ทางรัฐบาลหยิบหยกขึ้นมาพิจารณาในช่วงสงกรานต์ หรือ

Continue Reading16 Apr 2017