ไนท์แฟรงค์ฯ ส่องอสังหาฯ ปี 61 คาดคอนโดฯ โต แนวราบขยายตัวต่ำ

1 Jan 2018

ไนท์แฟรงค์ฯ ส่องอสังหาฯ ปี 61 คาดคอนโดฯ โต แนวราบขยายตัวต่ำ

อสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีแนวโน้มเติบโตมากที่สุดในปี 2561 โดยไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย คาดการณ์ว่า ตลาดจะเติบโตอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 5-7% ทั้งในแง่ของจำนวนยูนิตและมูลค่าของโครงการ ซึ่งสอดคล้องกับผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่ที่ส่วนใหญ่ยังเห็นว่าตลาดมีโอกาสเติบโตจึงมีการวางแผนพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง

ผู้ประกอบการเน้นสร้างจุดขายด้วย Facility
สินค้าและผลิตภัณฑ์ในปี 2561 น่าจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ทั้งด้านการวางผังห้องชุด ขนาดของยูนิต แต่ผู้พัฒนาโครงการจะมองหาการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ (Facility) เพื่อสร้างความแตกต่างของโครงการและช่วยสนับสนุนการขาย โครงการส่วนใหญ่จะหันมาใช้ระบบที่จอดรถอัตโนมัติ (Automate parking) เพื่อเพิ่มปริมาณที่จอดรถภายในโครงการ ซึ่งสามารถเพิ่มเนื้อที่ได้ประมาณ 20-30% จากระบบที่จอดรถแบบเดิม รวมถึงการใช้ระบบ Home automation มากขึ้น

แนวราบขยายตัวต่ำ-คอนโดฯ โตตามแนวรถไฟฟ้า
การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปี 2561 จะยังเน้นไปตามแนวรถไฟฟ้าโดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย และสายสีเขียวที่กำลังก่อสร้างอยู่ โดยตลาดจะขยายตัวไปยังบริเวณพื้นที่ชานเมืองช่วยให้ผู้อยู่อาศัยเดินทางเข้าเมืองสะดวก สามารถคำนวณระยะเวลาการเดินทางได้

สำหรับตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ซึ่งอยู่บริเวณชานเมืองจะมีอัตราการขยายตัวต่ำ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการจราจร เนื่องจากโครงการพัฒนาบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ตั้งอยู่ไกลจากรถไฟฟ้า การตัดถนนใหม่เพื่อรองรับปริมาณรถและการจราจรที่เพิ่มขึ้นมีน้อยมาก ตลาดคอนโดมิเนียมจึงมีสถานะที่ได้เปรียบเนื่องจากอยู่ใกล้รถไฟฟ้าและยังใช้ที่ดินในการพัฒนาโครงการไม่มากอีกด้วย

อัพเดทข้อมูลความนิยมของโครงการอสังหาฯ กับรถไฟฟ้า จะเป็นคู่จิ้นชั่วคราวหรือถาวร ได้ที่นี่

ปี 2561 คอนโดฯ ยังโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า

ปี 2561 คอนโดฯ ยังโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า

ต่างชาติเข้ามาลงทุนคอนโดฯ มากขึ้น
ตลาดคอนโดมิเนียมเกรด B-C ผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังคงเป็นคนไทย ส่วนคอนโดมิเนียมในทำเลสุขุมวิท รถไฟฟ้าสายสีเขียว บริเวณแบริ่ง รถไฟฟ้าใต้ดิน บริเวณบางซื่อ และลาดพร้าว จะมีชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนมากขึ้น อาทิ จีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และไต้หวัน

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อแตกต่างกันออกไปตามแต่ละตลาด ดังนี้
1. ตลาดคอนโดมิเนียม ผู้ซื้อจะคำนึงถึงทำเลเป็นหลัก โดยพิจารณาจากการเดินทางเข้าสู่เมืองเป็นสำคัญ นอกจากนี้ ตัวโครงการ ขนาดของยูนิต สิ่งอำนวยความสะดวก และราคาก็จะถูกนำมาพิจารณาเช่นกัน

2. ตลาดบ้านและทาวน์เฮ้าส์ ผู้ซื้อจะคำนึงถึงพื้นที่การใช้สอยเป็นหลัก ตามด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการและทำเลของโครงการ

นอกจากตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย แนวโน้มตลาดทรัพย์สินเพื่อการอุตสาหกรรมจะมีการเติบโตจากนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยเฉพาะโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ซึ่งถ้าเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนจะทำให้ตลาดอุตสาหกรรมเติบโตขึ้น ขณะเดียวกันก็จะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติได้อีกด้วย ในส่วนของตลาดโลจิสติกส์และคลังสินค้าก็จะมีการเติบโตในเชิงของปริมาณ ด้านตลาดสำนักงานมีทิศทางเป็นบวกเนื่องจากปริมาณอุปทานที่เข้าตลาดยังมีอยู่น้อย ขณะที่เศรษฐกิจและภาคธุรกิจยังมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ความต้องการใช้สำนักงานจะเพิ่มมากขึ้น อัตราค่าเช่ายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจคือรายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index  และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

POST COMMENT

You may also like these articles

สนทนากับกูรู: ปี 61 ก้าวต่อไปของอสังหาฯ ระดับบน

ช่วงสิ้นปี 2560 นี้ หลายผู้ประกอบการอสังหาฯ ต่างเริ่มคาดการณ์ตลาดอสังหาฯ

Continue Reading26 Dec 2017