กองทุนแบงก์รัฐ หนุนธนาคารรัฐ เอื้อผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย

17 Aug 2018

กองทุนแบงก์รัฐ หนุนธนาคารรัฐ เอื้อผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย

คณะอนุกรรมการกองทุนแบงก์รัฐ เตรียมความพร้อมแผนใช้เงินกองทุนแบงก์รัฐ เสริมสภาพคล่องให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หลังประสบปัญหาขาดทุนจากปัญหาหนี้เสีย พร้อมหนุนการอนุมัติเงินให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จำนวน 30 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลของธนาคารให้มีความทันสมัยรองรับการบริการให้กับผู้ขอสินเชื่อบ้านและที่อยู่อาศัย

หลังจากที่ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักจากปัญหาหนี้เสียที่มีมากถึง 50% ซึ่งมากกว่าธนาคารพาณิชย์ทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะมีหนี้เสียไม่เกิน 5% และหนี้เสียนั้นเป็นการปล่อยกู้อย่างไม่มีศักยภาพให้กิจการโครงการที่เกี่ยวข้องกับทางการเมืองซึ่งไม่ใช่ลูกค้ากลุ่มมุสลิม และทางธนาคารได้ส่งเรื่องให้ สำนังานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐฯ (ป.ป.ท.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้วกว่า 50 คดี แต่ธนาคารฯ ยังไม่พ้นวิกฤตจนต้องแก้ปัญหาด้วยการโอนหนี้เสีย 5 หมื่นล้านบาท ไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ “ไอแอม” ขณะที่คณะสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบแก้กฎหมายให้กระทรวงการคลังเข้าไปถือหุ้นได้เกิน 49% เป็นการชั่วคราว เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขฐานะหรือดำเนินงานของธนาคาร ตามสัดส่วนและระยะเวลาที่เหมาะสมของคณะรัฐมนตรี และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 61 ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นกระทรวงการคลังจะใส่เงินเพิ่มทุนส่วนแรก 2,000 ล้านบาท เป็นเงินจากงบประมาณให้กับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทันที 

ล่าสุด นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารและอำนวยการในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (กองทุนแบงก์รัฐ) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้ประชุมเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการใช้เงินของกองทุนที่มีอยู่ล่าสุด 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากมีการดำเนินการใช้ได้เร็ว ก็จะเป็นผลดีต่อธนาคารของรัฐให้มีความเข้มแข็ง ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวได้มากขึ้น โดยแผนการใช้เงินของกองทุนแบงก์รัฐ ที่สำคัญ 1 ใน 3 เรื่อง คือ การเพิ่มทุนให้กับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท จากการเพิ่มทุนทั้งหมด 1.8 หมื่นล้านบาท หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สนช. เห็นชอบแก้กฎหมายให้กระทรวงการคลังเข้าไปถือหุ้นได้เกิน 49% เป็นการชั่วคราว โดยหลังจากนี้จะเป็นการสรรหาพันธมิตรมาร่วมทุนถือหุ้นในธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยเพื่อเสริมความแข็งแกร่งเป็นรอบที่ 3 โดยมีเป้าหมายหาผู้ร่วมทุนให้ได้ภายในสิ้นปี้นี้ (2561)

สำหรับแผนการใช้เงินของกองทุนแบงก์รัฐที่สำคัญนอกเหนือจากการเพิ่มทุนให้กับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยแล้ว ยังเป็นการดำเนินการโครงการอินฟินิท จำนวน 650 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังจะร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในการใช้สถานที่ตั้งศูนย์แลกเปลี่ยนการเรียนรู้การเงินฟินเทคสมัยใหม่ทั้งหมด โดยส่วนนี้ต้องตั้งงบประมาณไว้มาก เพราะต้องร่วมมือกับองค์กรต่างประเทศ ที่มีความรู้ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีฟินเทคที่ทันสมัย เพื่อให้คนไทยนำไปต่อยอดได้

ที่สำคัญคือ การอนุมัติเงินให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จำนวน 30 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลของธนาคารให้มีความทันสมัยรองรับการบริการให้กับผู้ขอสินเชื่อบ้านและที่อยู่อาศัย ขณะที่ ธอส.เตรียมขอความร่วมมือธนาคารสมาชิก และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) และบริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) รวมถึงกรมบังคับคดี ในการนำทรัพย์สินรอการขาย หรือ เอ็นพีเอ ของทุกหน่วยงานนำมารวมกันออกจำหน่ายภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะมีเอ็นพีเอที่จะนำออกมาจำหน่ายไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท ค้นหาสินเชื่อที่อยู่อาศัย ดอกเบี้ยดีๆ โดนๆ ได้ที่นี่ คลิ๊ก!

อ่านบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพิ่มเติม

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

POST COMMENT

You may also like these articles

คอนโดฯ มาแรง - ธุรกิจหอพักกำลังตาย: วิกฤติ ทางเลือก และทางรอด

นับถอยหลังไป 10 ปี ก่อนหน้านี้ เจ้าของพื้นที่ว่าง ตึกแถว อสังหาริมทรัพย์

Continue Reading7 Aug 2018