ปี 63 คอนโดยังมีมากสุด จับตาไตรมาสแรกสะดุดไวรัสโคโรนา

17 Feb 2020

แนวโน้มภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2563 ค่อนข้างทรงตัว แต่มีโอกาสขยายตัวสูงถึง 7% หากเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัย แต่ต้องจับตาไวรัสโคโรนาที่อาจทำอสังหาฯ สะดุดในไตรมาสแรก

จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ภาพรวมธุรกิจที่อยู่อาศัยปี 2562 หลังจากที่รัฐบาลได้ออก 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่

1. มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้จากการซื้อบ้านและห้องชุด (บ้านหลังแรก) ไม่เกิน 200,000 บาท

2. มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ เหลือประเภทละ 0.01% สำหรับการซื้อบ้านจัดสรรและห้องชุดราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท (รวมบ้านสร้างใหม่ และบ้านมือสอง)

3. มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือประเภทละ 0.01% สำหรับการซื้อบ้านจัดสรรและห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่ซื้อจากผู้ประกอบการ

 

Subscription Banner for Article

 

มาตรการรัฐกระตุ้นยอดโอน 373,365 หน่วย ปี 62

3 มาตรการข้างต้น ส่งผลให้สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศในปี 2562 ปรับตัวดีขึ้นจากปี 2561 โดยมียอดจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ถึง 373,365 หน่วย และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ถึง 875,189 ล้านบาท ซึ่งมีการขยายตัวจากปี 2561 ถึง 2.7% (จำนวนหน่วย) และ 4.3% (จำนวนมูลค่า) ทั้งที่คาดการณ์ว่าจะต้องติดลบถึง 8.4% และ 8.2% ตามลำดับ

 

ผู้ประกอบการเบนเข็มซบแนวราบ ลดซัพพลายแนวสูง

ในส่วนของจำนวนหน่วยที่ได้รับในอนุญาตจัดสรรทั่วประเทศ มีการขยายตัวในไตรมาส 2 และ 3 และในไตรมาส 4 ปี 2562 มีจำนวนหน่วยการขออนุญาตจัดสรรใกล้เคียงกับปี 2561 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการได้ปรับแนวการผลิตที่อยู่อาศัยมาสู่แนวราบมากยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เห็นได้ว่าเริ่มมีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 และ 2560 แล้ว โดยจำนวนหน่วยที่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างทั่วประเทศปี 2562 มีจำนวนลดลงถึงประมาณ 9% จำนวนหน่วยที่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดลดลง 24%

หากพิจารณาจำนวนและสัดส่วนของใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดได้ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559-2562 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าปริมาณของอาคารชุดเกิดใหม่ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้านี้น่าจะมีปริมาณลดลง

 

ขณะที่จำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 2562 มีจำนวนลดลงถึงประมาณ 32.1% โดยจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่ของอาคารชุดลดลง 34.3% และบ้านจัดสรรลดลง 29.% ซึ่งทำให้ภาวะที่มีหน่วยเหลือขายมากจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในปี 2561 จะทยอยถูกดูดซับไป

 

Bangkok Skyline Sunset condominium

 

ปี 63 ฝ่าปัจจัยลบ คาดยอดโอนมีโอกาสขยายตัวถึง 7%

สำหรับทิศทางการตลาดที่อยู่อาศัยปี 2563 จากปัจจัยบวก ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยต่ำและเป็นขาลง มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล การผ่อนปรนเกณฑ์มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value: LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย และปัจจัยลบ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว การระบาดของไวรัสโคโรนา สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ล้วนส่งผลต่อการปรับตัวในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทุกประเภททั่วประเทศ จะอยู่ที่ประมาณ 372,500-400,660 หน่วย ขยายตัวระหว่าง -0.2% ถึง 7.3% และมีมูลค่าถึง 853,100-917,100 ล้านบาท ขยายตัวระหว่าง -2.5% ถึง 4.8%

โดยจะมีการโอนกรรมสิทธิ์จะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลประมาณ 197,500-214,300 หน่วย ขยายตัวระหว่าง -0.2% ถึง 8.3% และมีมูลค่าถึง 571,200-614,000 ล้านบาท ขยายตัวระหว่าง -0.2% ถึง 7.3% ซึ่งจะมีสัดส่วนหน่วย 53% และมูลค่า 67% ของการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ

 

คาดครึ่งแรกปี 63 ชะลอ พิษไวรัสโคโรนาสกัดชาวจีน

การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศ จะอยู่ที่ประมาณ 117,400-126,780 หน่วย เป็นมูลค่าถึงประมาณ 284,360-305,700 ล้านบาท โดยกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะมีสัดส่วนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ 73.6% และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 78.1%

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 คาดว่าจะมีการชะลอการโอนของคนจีนบ้างเนื่องจากสาเหตุการระบาดไวรัสโคโรนา แต่มีผลกระทบไม่มากเนื่องจาก ผู้ซื้อห้องชุดคนจีนมีสัดส่วนพียง 6% ของผู้ซื้อทั้งหมดเท่านั้น

 

Condo Over Supply

 

คอนโดฯ เปิดตัวใหม่ สัดส่วนกว่าครึ่งของตลาด

สำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในปี 2563 จะอยู่ประมาณ 114,400-122,600 หน่วย โดยเป็นห้องชุดประมาณ 55% หรือประมาณ 62,900-67,400 หน่วย โดยการขอใบอนุญาตจัดสรรทั่วประเทศจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2562 ประมาณ 97,500-100,400 หน่วย และจะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลประมาณ 58.4%

การออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารทั่วประเทศ ประมาณการณ์ว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2562 ประมาณ 292,100-300,900 หน่วย โดยมีใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดประมาณ 27.4% หรือประมาณ 80,000-82,400 หน่วย

ใบอนุญาตก่อสร้างอาคารในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2562 แต่อาจมากกว่าเล็กน้อยประมาณ 129,000-132,900 หน่วย

โดยมีใบอนุญาตก่อสร้างอาคารชุดประมาณ 51.1% หรือประมาณ 65,900-67,900 หน่วย ซึ่งหมายความว่า 82% ของอาคารชุดที่ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างอาคารทั่วประเทศจะกระจายตัวอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

 

จากการคาดการณ์สรุปได้ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 น่าจะมีภาวะที่ค่อนข้างทรงตัวต่อเนื่องจากปี 2562 แต่มีโอกาสที่จะขยายตัวได้สูงถึง 5-7% หากเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศมีการขยายตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานและความมั่นใจของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในการตัดสินใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้นตามไปด้วย

 

สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

POST COMMENT

You may also like these articles

EEC ปัจจัยหนุนตลาดที่อยู่อาศัย

จับตาอสังหาฯ พื้นที่ EEC ศรีราชาน่าสนใจ เป็นศูนย์รวมแหล่งงาน และสถานศึกษ

Continue Reading11 Feb 2020

กางแผนรุกตลาดอสังหาฯ ปี 63 ชูทำเลเด่น หลากเซกเมนต์ เน้นคนรุ่นใหม่

เปิดเกมรุกรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 63 ผู้ประกอบการผนึกพันธมิตร ชูกลยุท

Continue Reading14 Feb 2020