[PR News] บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ทำสถิติ All Time High กวาดยอดขายบ้าน-คอนโดปี 2566 กว่า 47,265 ล้าน ทะลุเป้าหมายทั้งปีที่ 45,000 ล้าน คิดเป็น 105% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ และโตจากปีก่อน 15%
ตอกย้ำสถานะผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังกลุ่มคอนโด Pet Lover-โครงการฝั่งธน-ต่างจังหวัด ตอบโจทย์ผู้บริโภคหลากหลายเซ็กเมนท์ หนุนยอดระดับ Sold Out
ด้านปี 2567 เตรียมแผนเจาะตลาดเซ็กเมนท์ใหม่และเซ็กเมนท์ที่กำลังซื้อยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยบริษัทระดับมหาชนในเครือเตรียมทยอยประกาศแผนธุรกิจต่อเนื่องมกราคม-มีนาคม 2567
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ภาพรวมปี 2566 ที่ผ่านมา (มกราคม-ธันวาคม 2566) บริษัทมียอดขาย (Presales) จากโครงการที่อยู่อาศัย อยู่ที่ประมาณ 47,265 ล้านบาท
ทะลุเป้าหมายทั้งปีที่ 45,000 ล้านบาท คิดเป็น 105% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ และเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณ 15% พร้อมทั้งทำสถิติยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (All Time High) อีกครั้ง
โดยจากยอดขายดังกล่าว แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม อยู่ที่ 34,704 ล้านบาท หรือราว 73% และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) อยู่ที่ 12,561 ล้านบาท หรือประมาณ 27%
หากแบ่งตามสถานะโครงการ มีสัดส่วนยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ประมาณ 53% และยอดขายจากกลุ่มโครงการที่เพิ่งเปิดขายหรืออยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) อีกราว 47%
การบุกตลาดคอนโดมิเนียมสำหรับ Pet Lover อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลใหม่ ๆ ที่ยังเป็น Blue Ocean ไม่มีโครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้มาก่อน ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายของบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสะท้อนว่าแนวโน้มคนรุ่นใหม่ในเขตเมืองมีความต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโดสูงขึ้น
ขณะเดียวกันบริษัทยังสามารถขับเคลื่อนแผน Origin Infinity กวาดยอดขายจากโครงการบ้านและคอนโดมิเนียมในทำเลใหม่ ๆ เช่น ฝั่งธนบุรี และพื้นที่จังหวัดเศรษฐกิจสำคัญทั่วประเทศ ได้อย่างต่อเนื่อง ในหลายโครงการในต่างจังหวัดได้รับการตอบรับที่ดีมาก เช่น ภูเก็ต และขอนแก่น
สำหรับโครงการเปิดใหม่ปี 2566 ที่ได้รับการตอบรับดี จนสามารถปิดการขายหรือ Sold Out ได้หลังเปิดขาย ได้แก่ โซ ออริจิ้น ศิริราช (So Origin Siriraj), ออริจิ้น เพลส เพชรเกษม (Origin Place Phetkasem), ออริจิ้น เพลส พหล 59 สเตชั่น (Origin Place Phahol 59 Station) และดิ ออริจิ้น เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (The Origin Centre Phuket)
โดยแต่ละโครงการมีความโดดเด่นทั้งด้านศักยภาพทำเล, ฟังก์ชันที่โดดเด่น และราคาที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในทำเลเดียวกัน
ขณะเดียวกันช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น บริษัทได้เปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 11,040 ล้านบาท โดยแต่ละโครงการได้รับการตอบรับที่ดีส่งท้ายปี และคาดว่าจะช่วยเพิ่มแบ็คล็อคเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 ได้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 นั้น ยังมีปัจจัยภายนอกที่ต้องจับตาหลายเรื่อง อาทิ ภาพรวมเศรษฐกิจโลก, สถานการณ์เศรษฐกิจจีน, การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และภาวะหนี้ครัวเรือน
หลายประเด็นอาจส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ส่งผลให้ภาพรวมการเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกรายในปี 2567 น่าจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเทียบกับ 1-2 ปีก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาออริจิ้นฯ ยึดหลัก 4 อย่างในการก้าวผ่านความท้าทายเหล่านี้ ได้แก่
1. ทำเลต้องดี เลือกทำเลที่มีความต้องการซื้อจริง เน้นเฉพาะทำเลใกล้รถไฟฟ้า เส้นทางคมนาคมสายหลัก ใกล้สถานที่สำคัญ
2. เซ็กเมนท์ต้องแตกต่าง เลือกเซ็กเมนท์ที่คู่แข่งไม่มาก แต่มีกำลังซื้อแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มเติบโต เช่น เซ็กเมนท์สำหรับ Pet Lover และกลุ่มนักลงทุน Investment Program
3. ฟังก์ชั่นต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ เน้นฟังก์ชั่นที่ใช้งานได้จริง
4. ใน 1 โครงการต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้หลายกลุ่ม เช่น โครงการคอนโด Pet Lover ไม่ได้ขายเฉพาะคนเลี้ยงสัตว์ มีแยกตึกหรือแยกชั้น เพื่อขายทั้งคนเลี้ยงสัตว์และไม่เลี้ยงสัตว์
หลายโครงการต้องพัฒนาเป็นมิกซ์โปรดักท์ เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าที่มีกำลังซื้อหลากหลาย หลายโครงการทำเป็นมิกซ์ยูส เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบวงจร หลายโครงการต้องตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้ออยู่เองและซื้อลงทุนระยะยาว
ความท้าทายหลายอย่างไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในปี 2567 แต่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ พิสูจน์มาแล้วว่ากลุ่มบริษัทสามารถปรับกลยุทธ์รวดเร็วช่วยให้ก้าวผ่านทุกความท้าทายในปี 2566 มาได้
ปี 2567 บริษัทฯ ก็จะยังคงยึดหลักการดังกล่าวในการพิจารณาพัฒนาโครงการ ควบคู่กับการจับตาปัจจัยภายนอกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ กับทุกสถานการณ์
ทั้งนี้ บริษัทในเครือที่เป็นบริษัทมหาชน ได้แก่ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) และบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) จะเตรียมทยอยประกาศแผนการดำเนินธุรกิจประจำปี 2567 ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2567 นี้ โดยบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) น่าจะประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงเดือนมีนาคม 2567