เกาะติดแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในทำเลต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคอีสาน และแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงที่เตรียมเปิดใช้ ในแง่จำนวนหน่วยเหลือราคาและราคามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร DDproperty รวมมาอัปเดตที่นี่
1. จับตาสต็อกอสังหาฯ เหลือขาย 5 จังหวัดภาคอีสาน
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2564 ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพรวมยังชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2563 ผลจากโควิด-19 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564
– นครราชสีมา คาดมีหน่วยเปิดใหม่ 1,684 หน่วย มูลค่า 5,352 ล้านบาท หน่วยขายได้ 1,793 หน่วย มูลค่า 5,711 ล้านบาท และหน่วยเหลือขาย 6,770 หน่วย มูลค่า 24,278 ล้านบาท ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ คาดมีประมาณ 6,141 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 26.6% มูลค่าประมาณ 10,627 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 38.4%
– ขอนแก่น คาดมีหน่วยเปิดใหม่ 982 หน่วย มูลค่า 3,117 ล้านบาท หน่วยขายได้ 1,156 หน่วย มูลค่า 3,310 ล้านบาท และหน่วยเหลือขาย 3,573 หน่วย มูลค่า 12,062 ล้านบาท ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ คาดมีประมาณ 4,997 หน่วย ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 20% มูลค่าประมาณ 7,613 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 34.3%
– อุดรธานี คาดมีหน่วยเปิดใหม่ 255 หน่วย มูลค่า 1,504 ล้านบาท หน่วยขายได้ 432 หน่วย มูลค่า 1,289 ล้านบาท และหน่วยเหลือขาย 1,753 หน่วย มูลค่า 6,936 ล้านบาท ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2564 คาดมีประมาณ 2,855 หน่วย ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 8.2% มูลค่าประมาณ 4,726 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 10.4%
– อุบลราชธานี คาดมีหน่วยเปิดใหม่ 270 หน่วย มูลค่า 868 ล้านบาท หน่วยขายได้ 375 หน่วย มูลค่า 1,080 ล้านบาท และหน่วยเหลือขาย 1,530 หน่วย มูลค่า 4,295 ล้านบาท ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2564 คาดมีประมาณ 2,448 หน่วย ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 30.5% มูลค่าประมาณ 2,894 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 48.2%
– มหาสารคาม คาดมีหน่วยเปิดใหม่ 152 หน่วย มูลค่า 284 ล้านบาท หน่วยขายได้ 145 หน่วย มูลค่า 413 ล้านบาท หน่วยเหลือขาย 873 หน่วย มูลค่า 2,550 ล้านบาท ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2564 คาดมีประมาณ 1,210 หน่วย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 2.6% มูลค่าประมาณ 1,929 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 17.9%
2. เกาะติดแนวรถไฟฟ้าสายสีแดง บูมอสังหาฯ ชานเมือง
คอลลิเออร์ส อัปเดตภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ และช่วงบางซื่อ-รังสิต พลิกโฉมอสังหาริมทรัพย์ชานเมือง
จากการสำรวจตลอดแนวรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและอยู่ระหว่างการขายไม่ต่ำกว่า 24,522 ยูนิต มูลค่ารวม 101,769 ล้านบาท แบ่งออกเป็นบ้านจัดสรร 8,259 ยูนิต และคอนโดมิเนียมอยู่ระหว่างขาย 16,263 ยูนิต
โดยทำเลมีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบหนาแน่น ได้แก่ พื้นที่ตรงข้ามสนามบินดอนเมือง ถนนวิภาวดีรังสิต และทำเลช่วงปลายทางเส้นทางรถไฟชานเมืองสายสีแดง บริเวณตำบลคลองหนึ่ง จังหวัดปทุมธานี
ด้านตลาดคอนโด สถิติตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2557 ถึงไตรมาส 1 ปี 2564 พบว่า ผู้ประกอบการมีการลงทุนคอนโดแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงมากเป็นอันดับ 4 มีซัพพลายสะสม 9,198 ยูนิต ในเขตกรุงเทพฯ รองจากสายสีน้ำเงิน สายสีส้ม และสายสีเขียวเหนือ แต่หากรวมพื้นที่รังสิต ปทุมธานี มีซัพพลายสะสม 30,000 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 50,000 ล้านบาท
ขณะที่ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อรังสิต สถิติ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2564 พบว่า มีซัพพลายสะสม 16,263 ยูนิต มูลค่ารวม 22,224 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 11,976 ยูนิต คิดเป็น 73% เหลือขาย 4,296 ยูนิต สัดส่วน 27% ในจำนวนนี้ห้องชุดสตูดิโอเป็นรูปแบบที่มีการพัฒนามากที่สุด 12,819 ยูนิต คิดเป็น 79% ของซัพพลายอยู่ระหว่างการขายทั้งหมด
ทั้งนี้ เทรนด์การพัฒนาโครงการใหม่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีแดงยังมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินยังไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับพื้นที่ใจกลางเมือง หรือตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ ที่เปิดให้บริการแล้ว แต่หลังจากรถไฟฟ้าเปิดให้บริการเป็นทางการ ราคาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มสูงขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม เปิดหวูด ตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต
3. ประมาณการเศรษฐกิจไทยช่วงโควิด-19 หนี้ครัวเรือนยังพุ่ง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2564 ไว้ที่ 1.8% โดยมองว่าเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ ประมาณการเศรษฐกิจดังกล่าว อยู่ภายใต้สมมติฐานที่คาดว่าการระบาดในระลอกที่ 3 จะบรรเทาลงในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 โดยได้รวมผลบวกจากทิศทางการส่งออกที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงมาตรการภาครัฐที่กำลังจะทยอยออกมาทั้งโครงการคนละครึ่งเฟส 3 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้แล้ว
ขณะที่คาดว่าการเร่งกระจายฉีดวัคซีนจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2564 ซึ่งหากเร่งฉีดได้ในปริมาณที่มากพอกับการสร้างความเชื่อมั่นของครัวเรือนและธุรกิจ คงทำให้ภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 มีทิศทางที่เร่งตัวขึ้นอย่างมาก และเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2564 และปี 2565
ในส่วนของหนี้ภาคครัวเรือน จากผลสำรวจความคิดเห็นหลังมีโควิดระลอก 3 พบว่า สถานการณ์หนี้รายย่อยถดถอยลง โดยมีกลุ่มเปราะบางที่เผชิญทั้งปัญหารายได้ลด ค่าใช้จ่ายไม่ลด และภาระหนี้สูงเกินกว่า 50% ต่อรายได้ เพิ่มขึ้นจาก 10.8% ในโควิดระลอกที่ผ่านมา อยู่ที่ 22.1%
อ่านข่าวเพิ่มเติม ประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2564
4. ตลาดคอนโดดีมานด์ยังคงชะลอตัว
ไนท์แฟรงค์ เผยสถานการณ์ภาพรวมของตลาดคอนโดในไตรมาส 1 ปี 2564 ยังคงติดลบเมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2563 สาเหตุจากกำลังซื้อลดลง ผู้ประกอบการต้องเลื่อนหรือชะลอการเปิดโครงการใหม่ หันไปเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบจับกลุ่มเรียลดีมานด์
โดยไตรมาส 1 ปี 2564 ซัพพลายใหม่ค่อนข้างชะลอตัว เปิดขายใหม่ทั้งสิ้น 3,634 หน่วย ลดลง 41.8% เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2563 ส่วนใหญ่เป็นคอนโดเกรดบี ราคาตารางเมตรละ 80,000-150,000 บาท สัดส่วน 41% รองลงมาราคาต่ำกว่าตารางเมตรละ 80,000 บาท สัดส่วน 31% ขณะที่คอนโดเกรดเอ ราคาเกินตารางเมตรละ 150,000 บาท สัดส่วน 24% และคอนโดระดับซุปเปอร์ไพร์ม สัดส่วน 4%
ทำเลเปิดใหม่อยู่บริเวณชานเมืองกรุงเทพฯ 50% ตามมาด้วยโซนรอบเขตศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe) 46% และคอนโดในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) 4%
ด้านดีมานด์ มีหน่วยขายได้ใหม่ 1,340 หน่วย จากซัพพลายเปิดขายใหม่ในไตรมาส 1 ปี 2564 จำนวน 3,634 หน่วย คิดเป็นอัตราการขาย 37% อัตราการขายเพิ่มขึ้น 7% เปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2563 และมีอัตราการขายเพิ่มขึ้น 4% เทียบกับไตรมาส 4 ปี 2563 ขณะที่ราคาขายใหม่ของไตรมาส 1 ปี 2564 ค่อนข้างทรงตัวหรือปรับลงเล็กน้อย
– ทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจเฉลี่ย 251,158 บาท/ตารางเมตร ลดลง 6.3% เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2563 และลดลง 0.1% เทียบกับไตรมาส 4 ปี 2563
– ทำเลรอบเขตศูนย์กลางธุรกิจ (City Fringe) เฉลี่ย 123,250 บาท/ตารางเมตร ลดลง 17.6% เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2563 ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2563
– ทำเลชานเมืองกรุงเทพฯ เฉลี่ย 68,683 บาท/ตารางเมตร ลดลง 15.3% เทียบกับไตรมาส 1 ปี 2563 ลดลง 0.3% เทียบกับไตรมาส 4 ปี 2563
ทั้งนี้ ไตรมาส 2 ปี 2564 ตลาดคอนโดยังคงชะลอตัวทั้งในแง่ดีมานด์และซัพพลายเกิดใหม่ โครงการเปิดขายใหม่คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ปี 2563 อยู่ที่ 3,000-4,000 หน่วย ราคาขายต่ำกว่า 100,000 บาท/ตารางเมตร
อ่านข่าวเพิ่มเติม ภาพรวมตลาดคอนโดปี 2564
5. ดีเวลลอปเปอร์ขานรับต่างชาติ ซื้ออสังหาฯ ไทย
จากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นต่างชาติที่มีศักยภาพสู่ประเทศไทย แลกกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ หนึ่งในนั้น คือ การให้สิทธิซื้อ-เช่า อสังหาฯ ถือครองที่ดิน โดยดีเวลลอปเปอร์ต่างขานรับมาตรการดังกล่าว
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ยอดขายและยอดโอนเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% โดยตั้งเป้ายอดขายจากลูกค้าต่างชาติปีนี้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีสินค้าพร้อมทั้งคอนโดมิเนียมที่อยู่ในเมือง และโครงการใน EEC รวมถึงโครงการบ้านจัดสรร
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันบริษัทมี สัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติ 20% ของรายได้รวม มีโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างขาย มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ทำเลใกล้รถฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีเขียว ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมายและตอบโจทย์ของลูกค้าต่างชาติ
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) มองว่าจะสามารถกระตุ้นกำลังซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม โครงการในเขตเมืองซึ่งมีระดับราคากลาง-บนขึ้นไป รวมถึงโครงการในพื้นที่จังหวัดที่มีศักยภาพ มีนักลงทุน-ผู้ประกอบการต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุน
เปิดทางต่างชาติ 4 กลุ่มหลัก ซื้อที่ดินในไทยได้
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า