สร้างห้องเช่าราคาถูก 7 เรื่องควรรู้ก่อนเป็นเสือนอนกิน

DDproperty Editorial Team
สร้างห้องเช่าราคาถูก 7 เรื่องควรรู้ก่อนเป็นเสือนอนกิน
การสร้างห้องเช่าราคาถูก นับเป็นการลงทุนทางด้านอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจ สามารถเก็บเกี่ยวรายได้และผลประโยชน์ไปได้ยาวนาน
หากแต่การทำธุรกิจห้องเช่าอาจจะไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายอย่างที่ทุกคนคิด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสร้างห้องเช่าราคาถูก เนื่องจากมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งถ้าไม่พิจารณาให้ดี ก็อาจจะทำให้ผู้ดำเนินธุรกิจขาดทุนจนต้องล้มเลิกกิจการก่อนที่จะเป็นเสือนอนกินได้ สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างห้องเช่าราคาถูก มีเรื่องที่ควรรู้ ดังนี้

1. ทำเลในการสร้างห้องเช่าราคาถูก

เมื่อโจทย์คือการสร้างห้องเช่าราคาถูก แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะปล่อยเช่าคือกลุ่มผู้ที่มีรายได้ไม่สูง เช่น พนักงานโรงงาน ผู้ใช้แรงงาน หรือผู้ที่ยังไม่สามารถหาเงินด้วยตนเองได้และต้องพึ่งพาทางบ้าน เช่น นักเรียน นักศึกษา
ดังนั้น การเลือกทำเลสร้างห้องเช่าราคาถูก จึงควรอยู่ใกล้สถานศึกษา หรือโรงงาน ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายใช้ชีวิตประจำวันอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ควรจะมองไปไกลถึงอนาคตด้วยว่าทำเลที่เลือกนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้นในอีก 5-10 ปีข้างหน้าบ้าง เนื่องจากสามารถนำไปใช้กำหนดทิศทางต่อยอดการลงทุนในอนาคตได้

2. สำรวจตลาด

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำก่อนลงมือสร้างห้องเช่าราคาถูก คือการสำรวจตลาด โดยการหาข้อมูลเกี่ยวกับกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมาย จำนวนผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจห้องเช่าในบริเวณใกล้เคียง พร้อมอัตราการเข้าพัก ราคาค่าเช่า และลักษณะการให้บริการ เพื่อนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจกำหนดค่าเช่า ตลอดจนการสร้างจุดเด่นที่เป็นจุดขายและเป็นทางเลือกใหม่ ๆ ให้แก่ผู้เช่า

รวมประกาศให้เช่า

เช็กราคาประกาศให้เช่าหลายทำเล

3. ศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ก่อนตัดสินใจลงมือสร้างห้องเช่าราคาถูก ควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจห้องเช่าก่อน เพื่อที่จะสามารถดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น พระราชบัญญัติผังเมือง ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดความสูงของตึก พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร
รวมไปถึงพระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากสร้างห้องเช่าจำนวนห้องมากกว่า 80 ห้อง ก็จำเป็นต้องทำรายงานศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมประกอบด้วย

4. สำรวจงบประมาณ

สำหรับการวางงบประมาณในการสร้างห้องเช่าราคาถูก หากเป็นไปได้ควรใช้เงินส่วนตัวลงทุนทั้งหมด 100% แต่หากจำเป็นต้องใช้เงินทุนจากสถาบันการเงิน ก็ไม่ควรขอสินเชื่อเกิน 60-70% ของการลงทุน และควรเลือกสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ มีเงื่อนไขในการผ่อนชำระระยะยาว และหากเป็นสินเชื่อเฉพาะทางเกี่ยวกับการลงทุนทำห้องเช่าก็จะยิ่งดี เพราะสินเชื่อดังกล่าวจะเอื้อประโยชน์ให้ผู้กู้มากกว่า
ทั้งนี้ การลงทุนสร้างห้องเช่าราคาถูก ยังควรคำนึงถึงแผนการเงินระยะยาวล่วงหน้าด้วย เนื่องจากธุรกิจห้องเช่าต้องมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ค่าจ้างแม่บ้าน ค่าจ้างคนดูแลตึก หรืองานซ่อมบำรุง รวมทั้งภาษีต่าง ๆ ที่ต้องจ่าย เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีป้าย ค่าธรรมเนียมเก็บขยะ
กู้สินเชื่อเพื่อสร้างหอพัก อพาร์ทเม้นท์ให้เช่า

กู้สินเชื่อเพื่อสร้างหอพัก อพาร์ทเม้นท์ให้เช่า

ยกตัวอย่างสินเชื่อเพื่อสร้างห้องเช่า

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปล่อยสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการแฟลต, อพาร์ทเม้นท์, หอพัก, แมนชั่น หรืออาคารที่ประกอบกิจการเพื่อการให้เช่าพักอาศัย รวมไปถึงบ้านเช่า ทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ ประกอบด้วย
1) โครงการ Premium Refinance In ปี 2567 เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินและอาคาร สินเชื่อประเภทแฟลตให้เช่า/บ้านเช่า
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการไถ่ถอนจำนองที่ดินและอาคารแฟลตให้เช่า/บ้านเช่า รวมถึงเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
อัตราดอกเบี้ย
– ปีที่ 1 คงที่ เท่ากับ 4.00% ต่อปี
– ปีที่ 2 คงที่ เท่ากับ 4.50% ต่อปี
– ปีที่ 3 คงที่ เท่ากับ 5.00% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 4.50% ต่อปี)
– ปีที่ 4-5 เท่ากับ MLR-1.00% ต่อปี (5.50% ต่อปี)
– ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MLR (อัตราดอกเบี้ย MLR ของ ธอส. ในปัจจุบันเท่ากับ 6.50% ต่อปี)
ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 30 ปี พิเศษ! ยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และค่าประเมินหลักประกัน
ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และทำนิติกรรมถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 หรือก่อนระยะเวลาดังกล่าว หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว (กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว)
2) สินเชื่อประเภทแฟลตให้เช่า/บ้านเช่า ปี 2567
สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อ, ปลูกสร้าง, ต่อเติม, ปรับปรุง หรือซ่อมแซม อาคารแฟลตให้เช่า/บ้านเช่า รวมถึงเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย และกู้เพิ่ม โดยผู้ที่ขอกู้วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ เท่ากับ 4.75% ต่อปี และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MLR
ส่วนผู้ที่ขอกู้วงเงินเกิน 5 ล้านบาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 คงที่ เท่ากับ 4.50% ต่อปี, ปีที่ 2 คงที่ เท่ากับ 5.00% ต่อปี, ปีที่ 3 คงที่ เท่ากับ 5.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 5.00% ต่อปี) ปีที่ 4-5 เท่ากับ MLR- ไม่เกิน 1.00% ต่อปี และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MLR
พิเศษ! จะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และค่าประเมินหลักประกัน
ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 หรือก่อนระยะเวลาดังกล่าว หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว (กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร. 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่แอปพลิเคชัน GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

5. ระยะเวลาคืนทุน

เพื่อให้ระยะเวลาในการคืนทุนเป็นไปตามแผนที่กำหนด ผู้ลงทุนสร้างห้องเช่าราคาถูกต้องพิจารณาทั้งในด้านต้นทุนในการก่อสร้าง ค่าตกแต่ง ดอกเบี้ยสินเชื่อ (ต่อปี) ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และภาษีต่าง ๆ ที่ต้องเสีย เพื่อนำมาคำนวณค่าใช้จ่ายรายปี จากนั้นจึงนำมาใช้กำหนดราคาค่าเช่าต่อเดือนให้เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยผู้ลงทุนไม่ควรนำเงินส่วนอื่นมาใช้กับธุรกิจนี้อีก
ทั้งนี้ สำหรับการลงทุนสร้างห้องเช่าราคาถูก หากก่อสร้างเป็นห้องแถวชั้นเดียว จะมีระยะเวลาคืนทุนเร็วกว่าห้องเช่าประเภทอาคารที่มีหลายชั้น เนื่องจากการก่อสร้างห้องแถวชั้นเดียวมีต้นทุนในการก่อสร้างที่ต่ำกว่านั่นเอง
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต้องจ่ายเท่าไหร่

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต้องจ่ายเท่าไหร่

6. การกำหนดราคาและการออกแบบตกแต่งห้อง

สำหรับธุรกิจสร้างห้องเช่าราคาถูก หากพิจารณาจากกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ที่มีรายได้ไม่สูงหรือยังไม่สามารถหาเงินด้วยตนเองได้ ราคาค่าเช่าต่อเดือนก็ไม่น่าจะเกิน 5,000 บาท เนื่องจากการหาห้องเช่าสำหรับพักอาศัย คนโดยส่วนใหญ่จะเลือกห้องเช่าที่มีอัตราค่าเช่าต่อเดือนไม่เกิน 1 ใน 3 ของเงินเดือน
ทั้งนี้ การกำหนดอัตราค่าเช่า นอกจากจะมีความสัมพันธ์กับระยะเวลาในการคืนทุน ยังมีความสัมพันธ์กับการออกแบบห้องเช่า รวมถึงการตกแต่งห้องให้เหมาะสมกับราคาค่าเช่าด้วย โดย
1. ห้องเช่าราคา 1,000-3,000 บาทต่อเดือน หากผู้ลงทุนมีพื้นที่มาก ควรจะก่อสร้างเป็นห้องแถวชั้นเดียว เพราะมีต้นทุนต่ำ ภายในห้องไม่ควรตกแต่งอะไรมาก ไม่ต้องมีเฟอร์นิเจอร์ก็ได้ ซึ่งห้องเช่าประเภทนี้แม้จะได้ค่าเช่าราคาไม่แพง แต่ก็หาคนเช่าได้ไม่ยากเช่นกัน โดยกลุ่มคนเช่าอาจจะพนักงานระดับรายได้ค่าแรงขั้นต่ำและมีครอบครัว
2. ห้องเช่าราคา 3,000-5,000 บาทต่อเดือน อาจก่อสร้างเป็นอาคารหลายชั้นได้ การตกแต่งควรดีพอใช้ ควรมีเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง ในห้องน้ำมีอ่างล้างหน้า ฝักบัว โถสุขภัณฑ์แบบชักโครก และอาจมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศในบางห้องให้ผู้เช่าเลือกด้วย

ราคาค่าเช่าและการออกแบบตกแต่งโดยประมาณ

1,000-3,000 บาทต่อเดือน
ห้องแถวชั้นเดียว
ไม่ต้องมีเฟอร์นิเจอร์
3,000-5,000 บาทต่อเดือน
อาคารหลายชั้น
มีเฟอร์นิเจอร์

7. ต่อยอดสร้างรายได้เพิ่ม

ในการทำธุรกิจสร้างห้องเช่าราคาถูก นอกจากการเก็บค่าเช่า หากมีพื้นที่เหลือ ผู้ลงทุนยังสามารถนำไปต่อยอดหารายได้เพิ่ม โดยการเปิดมินิมาร์ทขายสินค้า เปิดร้านขายอาหาร ขายเครื่องดื่ม ปล่อยเช่าเป็นพื้นที่ขายของ ติดตั้งตู้หยอดเหรียญ ไม่ว่าจะเป็น ตู้น้ำ ตู้ขนม ตู้เติมเงิน หรือเครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญ
บริการเสริมเหล่านี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มรายได้ ยังเพิ่มความน่าสนใจให้ห้องเช่าด้วย
การจะทำธุรกิจสร้างห้องเช่าราคาถูกให้ประสบผลสำเร็จ ต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน ซึ่งหากมีความรู้ก่อนลงทุน การทำธุรกิจห้องเช่าก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ

คำถามยอดนิยม

ศึกษาทำเล สำรวจตลาด ผู้เช่า ราคาค่าเช่า กฎหมายที่เกี่ยวข้อง งบประมาณ ระยะเวลาคืนทุน รู้วิธีการกำหนดราคา การออกแบบตกแต่งห้อง รวมถึงการต่อยอดสร้างรายได้เพิ่มในกรณีที่มีพื้นที่เหลือ

ควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจห้องเช่า เช่น พระราชบัญญัติผังเมือง พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อม และดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด