DDproperty Thailand Property Market Report Q1 2565 - Powered by PropertyGuru DataSense

ปี 2565 เริ่มต้นด้วยความท้าทายด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 5 ทำให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังคงชะลอตัว ภายใต้ความกังวลในการใช้จ่ายของผู้บริโภค ส่งผลให้การซื้อ-ขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงไม่ฟื้นตัวตามที่คาด

ทั้งนี้ DDproperty Thailand Property Market Report ซึ่งใช้ข้อมูลในช่วง Q1 2561 เป็นฐาน โดยใช้ดัชนีราคา, ดัชนีอุปทาน และดัชนีอุปสงค์ จากทั้งฝั่งตลาดซื้อขาย และตลาดเช่าในการดูแนวโน้มตลาดอสังหาฯ โดยจะยังโฟกัสที่ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ เป็นหลัก และสำหรับข้อมูลล่าสุด พบว่าดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในช่วง Q1 2565 ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และคาดว่าจะยังคงไม่เพิ่มขึ้นในไตรมาสถัดไป ส่วนดัชนีอุปทาน (จำนวนที่อยู่อาศัย) มีจำนวนสะสมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน โดยอุปทานประเภทแนวราบเพิ่มขึ้น สวนทางกับจำนวนอุปทานแนวสูงที่แม้จะมีสัดส่วนมากที่สุดในตลาด แต่มีจำนวนลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า

ไฮไลต์

1. Get The Guru View

2. Thailand Property Sale Market Index

3. Thailand Property Rental Market Index

4. สรุป

5. ดาวน์โหลดรายงาน

อ่านรายงานฉบับออนไลน์ได้ที่นี่:

Get The Guru View

Thailand Property Sale Market Index

ดัชนีราคาโดยภาพรวมลดลงต่อเนื่อง

ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 84 จุด หรือลดลงประมาณ 1% จากไตรมาสก่อน (QoQ)

โดยดัชนีราคาคอนโดมิเนียมลดลง 1% QoQ และลดลงถึง 10% ในรอบปี (YoY) สวนทางกับดัชนีราคาบ้านเดี่ยวที่เพิ่มขึ้นถึง 5% QoQ (+13% YoY) ส่วนดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ เพิ่มขึ้น 1% QoQ (ทรงตัวจากปีก่อนหน้า)

ดัชนีอุปทานแนวราบเพิ่มขึ้น

ด้านอุปทานหรือจำนวนที่อยู่อาศัยปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 229 จุด จาก 223 จุด หรือเพิ่มขึ้น 3% QoQ (+23% YoY) โดยบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ 7% QoQ (+42% YoY) คอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น 3% QoQ (+21% YoY) และทาวน์เฮ้าส์ทรงตัวจากไตรมาสก่อน (+32% YoY)

เมื่อดูจากทำเลพบว่า ทำเลที่มีอุปทานคอนโดมิเนียมมากที่สุด ได้แก่ เขตวัฒนา มีสัดส่วนอยู่ที่ 15% ของอุปทานคอนโดมิเนียมทั้งหมดในกรุงเทพฯ ทำเลที่มีอุปทานทาวน์เฮ้าส์มากที่สุดอยู่ในเขตคลองสาน (8%) และอุปทานบ้านเดี่ยวมากที่สุดอยู่ในเขตราษฎร์บูรณะ (8%)

Thailand Property Rental Market Index

จากรายงาน DDproperty Thailand Property Market Report ล่าสุด พบว่า ดัชนีค่าเช่าในกรุงเทพฯ ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 90 จุด จาก 93 จุด หรือลดลง 3% QoQ และลดลงถึง 9% YoY หากเทียบกับช่วงก่อนหน้าโควิด-19 พบว่าลดลงถึง 13%

สรุป

ดัชนีราคาคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มลดลง ส่วนโครงการแนวราบ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวมีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นสินค้าที่ตอบรับรูปแบบการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้น ต้องการพื้นที่ในการอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น

สำหรับผู้ซื้อที่มีความพร้อมไม่ว่าจะซื้ออยู่เองหรือลงทุนระยะยาว ปี 2565 ยังคงเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะได้ที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับสถานการณ์ปกติ รวมทั้งยังมีปัจจัยเอื้อต่อการซื้อบ้านอื่น ๆ เช่น มาตรการรัฐ อาทิ การลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง ซึ่งได้ทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสอง รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ผู้ซื้อบ้านหลังแรกราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป และผู้ซื้อบ้านหลังที่สองขึ้นไป สามารถกู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน (กู้ได้ 100%) จากเดิมที่กู้ได้เพียง 70-90% ของมูลค่าหลักประกัน

ด้านตลาดเช่า แม้ดัชนีค่าเช่าจะมีแนวโน้มลดลง ในขณะที่จำนวนอุปทานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่หากพิจารณาควบคู่กับความต้องเช่า พบว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน ตอบรับกับการคลายล็อกดาวน์ และการกลับมาดำเนินธุรกิจของหลายภาคธุรกิจ ทำให้ความต้องการเช่าเพิ่มขึ้น