นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อที่พักอาศัยโดยเฉพาะผู้ที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกความสะดวกในพื้นที่ย่านใจกลางเมืองใกล้แนวรถไฟฟ้า หรือพักอาศัยย่านชานเมืองที่การจราจรยังไม่คับคั่งเท่ากับย่านใจกลางเมืองหลายแห่ง และราคาไม่สูงจนเกินไป เนื่องจากล่าสุดกระทรวงคมนาคมเดินหน้าเพิ่มรถไฟฟ้าสายใหม่ 5 เส้นทาง ระยะทาง 131 กิโลเมตร ขยายออกสู่พื้นที่ชานเมือง ซึ่งเอื้อต่อการอยู่อาศัยมากขึ้น
ดึงคนใช้รถไฟฟ้าเพิ่มเป็น 15%
แผนแม่บทพัฒนารถไฟฟ้ากรุงเทพฯ ระยะที่ 2 จะเป็นเส้นทางต่อขยายกับเส้นทางหลักเดิม ที่ยังขาดการเชื่อมโยง หรือ missing link รวมถึงโครงข่ายใหม่ที่เป็นระบบรอง เพื่อทำหน้าที่เป็นฟีดเดอร์ ดึงคนจากชานเมืองป้อนคนเข้าสู่ระบบหลัก 10 เส้นทาง ให้มากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการใช้ระบบรถไฟฟ้ามีเพียง 4% โดยมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 8-10% เมื่อรถไฟฟ้าระยะที่ 1 รวม 10 เส้นทางเสร็จสมบูรณ์ และเพิ่มเป็น 15% เมื่อรถไฟฟ้าระยะที่ 2 เสร็จสมบูรณ์
เพิ่ม 5 เส้นทาง ขยายสู่ชานเมือง
สำหรับแนวเส้นทางใหม่ที่กำหนดไว้มี 5 เส้นทาง ประกอบด้วย
1. สายสถานีแม่น้ำ-บางนา-สนามบินสุวรรณภูมิ (ระยะทาง 33 กิโลเมตร) รองรับกับการเติบโตของเมืองฝั่ง จ.สมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง จะเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบริ่ง-สมุทรปราการ และการพัฒนาบริเวณสถานีแม่น้ำ รวมไปถึงรองรับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ และยังช่วยลดความแออัดของผู้โดยสารแอร์พอร์ตลิงก์ด้วย
2. ส่วนต่อขยายสายสีเทา ช่วงรามอินทรา-ลำลูกกา (ระยะทาง 14 กิโลเมตร) รองรับการเติบโตของ จ.ปทุมธานี มีเส้นทางต่อเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีเทา (วัชรพล–ทองหล่อ) และสายสีเขียว (หมอชิต-ลำลูกกา)
3. สายรังสิต-ธัญบุรี (ระยะทาง 12 กิโลเมตร) รองรับการเติบโตพื้นที่โซนเขตเทศบาลนครรังสิต และ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และมหาวิทยาลัยรังสิต อีกทั้งยังเชื่อมกับรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
4. สายสถานีขนส่งสายใต้จากบรมราชชนนี–หลักสี่ (ระยะทาง 30 กิโลเมตร) แนวเส้นทางจะพาดผ่านพื้นที่ที่ยังไม่มีระบบขนส่งทางรางเข้าสู่ตัวเมือง รองรับเส้นทางคมนาคมที่มีหลากหลาย และรองรับผู้โดยสารจากสถานีขนส่งผู้โดยสารสายใต้
5. สายบางหว้า–ตลิ่งชัน–นนทบุรี–บางกะปิ แนวเส้นทางจะเป็นลักษณะวงแหวน (ระยะทาง 42 กิโลเมตร) จะรองรับพื้นที่ที่ยังไม่มีระบบรถไฟฟ้าเข้าไปถึง และเป็นระบบสายรองที่รองรับโครงข่ายหลักทั้งรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีส้ม และสายสีม่วง
ทั้งนี้ ตามแผนในปี 2562 ทั้งองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะทำรายละเอียดแต่ละพื้นที่เพิ่มเติม คาดว่าจะเริ่มโครงการในปี 2563 จะดำเนินการควบคู่กับการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ซึ่งหากดำเนินการเสร็จสิ้นทุกโครงการแล้ว ประเทศไทยจะมีรถไฟฟ้าเปิดบริการ 595 กิโลเมตร ซึ่งส่งผลให้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กระจายสู่พื้นที่ชานเมืองมากขึ้นในอนาคต
>>>เจาะลึกแนวโน้มที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ รอบล่าสุด
เพิ่มเติมความรู้ คู่มือซื้อ ขาย เช่าบ้าน-คอนโดฯ พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ และสามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน