ข่าวเด่นรอบสัปดาห์ คาดการณ์แนวโน้มอสังหาฯ ปี 65 แนวราบยังเป็นดาวเด่น แต่คอนโดใหม่จะเกาะแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ ด้านตลาดเช่าอาคารสำนักงานคาดขยายตัว ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายคงไว้ที่ 0.50% หนุนเศรษฐกิจต่อเนื่อง และอีกหลากหลายประเด็นน่าสนใจ DDproperty รวบรวมมาให้อัปเดตที่นี่
1. จับตาคอนโดใหม่ ปี 65 เกาะทำเลแนวรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง
คอลลิเออร์ส ประเทศไทย เผยภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมปี 2564 อุปทานเปิดขายใหม่ปรับตัวลดลง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกที่จะเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป
ขณะที่ผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์บางส่วน เปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องในทำเลที่มั่นใจในกำลังซื้อหรือทำเลที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ชัดเจน แต่จะค่อนข้างระมัดระวังในการกำหนดราคาขายที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมได้ไม่มากนัก
นอกจากนั้นยังได้พยายามมองหาจุดขายใหม่ ๆ หรือบริการอื่น ๆ เช่น บริการทางการแพทย์ คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-Friendly) คอนโดมิเนียมในรูปแบบ Branded Residences เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงการใหม่ และหันกลับมาให้ความสนใจกับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงราคาขายต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตรในพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก
แนวโน้มปี 2565 อุปทานเปิดตัวใหม่อาจปรับตัวมาอยู่ที่ประมาณ 24,000 ยูนิต ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากในปีก่อนหน้าประมาณ 28.5% ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นนอกหรือในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงรามคำแหง-ลำสาลี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง บริเวณถนนลาดพร้าวและศรีนครินทร์ และรถไฟฟ้าสายสีชมพู บริเวณถนนรามอินทรา และทำเลย่านบางนา คาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมกันอย่างคึกคัก
ด้านตลาดแนวราบ ยังคงเป็นตลาดดาวเด่นของภาคอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการรายใหญ่เพิ่มสัดส่วนการพัฒนาแนวราบมากขึ้นและมองหาทำเลใหม่ ๆ เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดยุทศาสตร์ที่สำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซีและจังหวัดใหญ่ ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น
สรุปข่าวจากฐานเศรษฐกิจ: เปิดบทสรุป “ภาคอสังหาริมทรัพย์” รายใหญ่กุมตลาดคอนโด-แนวราบเด่น
2. ตลาดสำนักงาน ปี 65 ยังเติบโต คาดขยายตัว 20%
เจแอลแอล ประเมินแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวได้มากขึ้นในปี 2565 เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความมั่นใจ ตลาดการเช่าปรับตัวดีขึ้น แม้ทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะยังไม่แน่นอน แต่บริษัทผู้เช่าใช้พื้นที่สำนักงานยังต้องการใช้ออฟฟิศเป็นที่ทำงาน ขณะที่นักลงทุนมีทัศนคติเชิงบวก
ปี 2565 คาดว่าจะยังมีกลุ่มทุนที่รอเข้าลุงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนเพิ่มขึ้นด้วยการหาโอกาสซื้อสินทรัพย์ที่ดีในราคาไม่แพงและมีโอกาสทำกำไรในตลาดหลัก ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ในส่วนของตลาดให้เช่า เอเชียแปซิฟิกจะมีอาคารสร้างเสร็จใหม่รวมอีก 6.9 ล้านตารางเมตรในปีหน้า เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2564
ขณะเดียวกัน ความต้องการเช่าใช้พื้นที่สำนักงานในปี 2565 จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 20% เป็นผลมาจากการเติบโตของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงิน เทคโนโลยี และผู้ประกอบการในธุรกิจเฟล็กสเปซ (เซอร์วิสออฟฟิศและโคเวิร์กกิ้งสเปซ)
สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มโลจิสติกส์ ซัพพลายของโกดังและศูนย์จัดเก็บ-กระจายสินค้ารูปแบบทันสมัยในเอเชียแปซิฟิกระหว่างปีนี้และปีหน้า ขยายปริมาณเพิ่มขึ้น 17% นับเป็นสถิติใหม่ โดยจะมีซัพพลายสร้างเสร็จใหม่เข้ามาตลาด รวมทั้งสิ้น 20.8 ล้านตารางเมตร
จากการมีซัปพลายใหม่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีนักลงทุนกระจายการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มนี้ คาดว่า มูลค่าการซื้อขายจะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี ภายในปี 2568
ขณะที่โรงแรมอาจมีมูลค่าการซื้อขายรวมราว 9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นราว 30% จากปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในตลาดโรงแรมมากขึ้น
3. กนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% หนุนเศรษฐกิจต่อเนื่อง
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นชั่วคราวจากราคาพลังงานเป็นหลัก แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการเงินเฟ้อโลกและการส่งผ่านต้นทุน การระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน เป็นความเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่องนี้ จะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ ประกอบกับมาตรการทางการเงินการคลังที่มีความต่อเนื่อง เน้นการฟื้นฟูและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้รายได้ฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง
ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 0.9% ในปี 2564 และจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2565 และ 2566 ที่ 3.4% และ 4.7% ตามลำดับ จากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะทยอยกลับมามากขึ้น การฟื้นตัวในหลายสาขาธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้นสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ประเมินว่าการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนจะกระทบเศรษฐกิจในช่วงแรกของปี 2565 โดยยังมีความเสี่ยงด้านต่ำที่ผลกระทบอาจรุนแรงและยืดเยื้อกว่าคาด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์การระบาดและความเข้มงวดของมาตรการควบคุม นอกจากนี้ยังต้องติดตามการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ยังอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาด
สรุปข่าวจากแนวหน้า: กนง.คงดอกเบี้ย0.50% จับตาโอมิครอนความเสี่ยง ศก.
4. เดินหน้าบ้านเคหะสุขประชา อยู่อาศัย ควบคู่สร้างอาชีพรายได้เดือนละ 4 หมื่น
การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เดินหน้าโครงการบ้านเคหะสุขประชา เพื่อผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง โดยก่อนหน้านี้ได้ส่งมอบบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง ซึ่งเป็นโครงการนำร่อง จำนวน 302 หน่วย ล่าสุดได้ส่งมอบโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย
โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ตั้งอยู่บริเวณถนนร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ บนพื้นที่ 20.26 ไร่ จำนวน 270 หน่วย ประกอบด้วย บ้านแฝดชั้นเดียว จำนวน 86 หน่วย และบ้านสองชั้น จำนวน 184 หน่วย แบ่งพื้นที่ใช้สอยตามความเหมาะสมของกลุ่มเป้าหมาย
– กลุ่มคนพิการและผู้สูงอายุ (แบบ X) พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร
– กลุ่มผู้มีสถานะโสด (แบบ A) พื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร
– กลุ่มครัวเรือนใหม่ (แบบ B) พื้นที่ใช้สอย 40 ตารางเมตร
– กลุ่มครอบครัว (แบบ C) พื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร
ราคาค่าเช่าเริ่มต้นเพียง 1,500-3,000 บาทต่อเดือน
ภายในโครงการยังได้จัดเตรียมพื้นที่เศรษฐกิจสุขประชา พัฒนาในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อรองรับการจ้างงานและสร้างอาชีพให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชน รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการของแต่ละพื้นที่ จะมีอาชีพรองรับผู้อยู่อาศัยถึง 6 อาชีพ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการมีงานทำ มีรายได้ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก-ส่ง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนตามภูมิสังคมของพื้นที่นั้น ๆ เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งจะช่วยให้แต่ละครอบครัวมีรายได้เดือนละ 40,000 บาท
เป้าหมายในปี 2565 กคช. มีแผนก่อสร้างโครงการบ้านเคหะสุขประชาอีก 13 โครงการ จำนวน 3,948 หน่วย ในจังหวัดปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี เชียงใหม่ ระยอง และสระบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ
บ้านเช่าราคาถูก 4 วิธีเลือกอย่างไรให้ตรงใจ และปลอดภัย
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า