จับตาตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดฟื้นตัว จังหวะเหมาะการลงทุน และการเติบโตของธุรกิจเฮลธ์แคร์ ในทำเลน่าสนใจอย่างประชาอุทิศ DDproperty รวบรวมมาให้อัปเดตที่นี่แล้ว
1. คอนโดในกรุงเทพฯ ปี 64 มีกว่า 45,000 ยูนิต จับตาสงครามราคา
ข้อมูลจากคอลลิเออร์ส ประเทศไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 2441-2563 มีคอนโดในกรุงเทพฯ ก่อสร้างแล้วเสร็จและจดทะเบียนอาคารชุด มากถึง 678,262 ยูนิต หากโฟกัสเฉพาะในปี 2563 มีจำนวนมากถึง 122 โครงการ 57,220 ยูนิต ถือว่าเป็นปีที่มีคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จและจดทะเบียนอาคารชุดมากที่สุดในรอบ 30 ปี รองจากปี 2561 อยู่ที่ 55,325 ยูนิต ปรับตัวสูงขึ้นจากปี 2562 อยู่ที่ 37,885 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 51%
อุปทานคอนโดที่ก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวนมากเหล่านี้ สร้างความกังวลให้ผู้ประกอบการ หากก่อสร้างแล้วเสร็จและเรียกลูกค้าเข้ามาโอนกรรมสิทธิ์ จะมียูนิตหลุดโอนมากน้อยเพียงใด และหากยูนิตเหล่านั้นมีการทิ้งโอนเป็นจำนวนมากในภาวะที่ตลาดชะลอตัวเช่นนี้ จะเป็นอีกปัญหาที่สำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องนำยูนิตเหล่านี้กลับมาขายใหม่ในตลาดอีกครั้ง
ในปี 2564 จะยังคงเห็นสงครามราคาในตลาดคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าจะมีคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จและจดทะเบียนอาคารชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกกว่า 45,000 ยูนิต
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปทานคอนโดสะสมในพื้นที่กรุงเทพฯ
2. นักลงทุนยังเชื่อมั่นภาคธุรกิจโรงแรม
จากการสำรวจความคิดเห็นของเจแอลแอล พบว่า นักลงทุนให้ความสนใจการซื้อโรงแรมในญี่ปุ่นมากที่สุด 52% ตามมาด้วยโรงแรมในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 46% เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดการท่องเที่ยวที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งในระยะยาว นักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มโรงแรม/รีสอร์ทในเอเชียแปซิฟิก แม้ภาคการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19
ทั้งนี้ ในปี 2564 มีกลุ่มนักลงทุนราว 70% ที่ยังคงเชื่อมั่นในภาคธุรกิจโรงแรมและสนใจที่จะลงทุนซื้อโรงแรม อย่างไรก็ดี พบว่า อุปสรรคสำคัญของการตกลงซื้อขายคือราคา นักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังว่าจะสามารถซื้อโรงแรมในราคาที่ถูกลง 20-30% ในขณะที่เจ้าของโรงแรมส่วนใหญ่ยอมรับการลดราคาได้ที่ระดับประมาณ 10% จากราคาที่เสนอขาย ทำให้นักลงทุนมีความตื่นตัวมากขึ้นในการมองหาโอกาสการลงทุนซื้อโรงแรมก่อนที่ตลาดและราคาจะฟื้นตัว จากปัจจัยบวกหลังจากเริ่มมีการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19
ขณะที่นักลงทุนราว 25% ยังคงลังเลที่จะตัดสินใจลงทุน เนื่องจากยังต้องการรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 และอีก 5% ของนักลงทุนมีแผนที่จะถอนการลงทุนออกจากภาคธุรกิจโรงแรม และเปลี่ยนไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นแทน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักลงทุนยังเชื่อมั่นภาคธุรกิจโรงแรม
3. ธุรกิจเฮลธ์แคร์ขยายตัว โตรับดีมานด์ผู้สูงอายุ
บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจโรงพยาบาลและเฮลท์แคร์ในปี 2564 จะกลับมาเติบโตอีกครั้งใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ส่วน Medical Tourism ที่ทรุดหนักในปีที่แล้ว ปีนี้จะมีสัญญาณที่ดีที่ขึ้น และกลับมาเติบโตหลังจากการฉีดวัคซีนคืบหน้า มีการเปิดประเทศ และเริ่มมีการเดินทางของคนไข้ต่างชาติ
ทั้งนี้ เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป THG มีการปรับตัวและเพิ่มบริการตรวจเชื้อโควิด-19 และสถานที่กักตัวทางเลือก เข้ามาเสริมพร์อต และวางงบการลงทุน 1,163 ล้านบาท เพื่อลงทุนขยายขีดความสามารถในธุรกิจเดิมของโรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลธนบุรี, โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง, โรงพยาบาลธนบุรีบูรณา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลฟื้นฟูสำหรับผู้สูงวัย ในโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ รังสิต ที่พักอาศัยรองรับวัยเกษียณ และธนบุรี เฮลท์ วิลเลจ ย่านประชาอุทิศ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยพักฟื้น ผู้ป่วยติดเตียง โครงการใหม่ล่าสุด
4. คาดตลาดที่อยู่อาศัย 6 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ ฟื้นตัวปี 65-66
วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา วิเคราะห์แนวโน้มภาพรวมธุรกิจที่อยู่อาศัยใน 6 จังหวัดหลักตามหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น และภูเก็ต จะกลับมาเติบโตในปี 2565-2566 แต่อาจจะต้องเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันสูง เนื่องจากมีผู้ประกอบการจำนวนมาก
โดยผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก มักเป็นคนในพื้นที่หรือมีที่ดินสะสมเดิม ส่วนรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีแนวโน้มรุกทำตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น และมีความได้เปรียบด้านการตลาดมากกว่า ประกอบกับได้อานิสงส์จากกำลังซื้อที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโควิด -19 ยังคงเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตของที่อยู่อาศัยในจังหวัดที่พึ่งพาภาคท่องเที่ยว โดยเฉพาะโครงการแนวสูงอย่างคอนโดที่คาดว่าอัตราการขายจะอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากต้องเปิดตัวพร้อมกันทั้งโครงการ ต่างจากโครงการบ้านจัดสรรที่ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ผันผวนได้ดี เนื่องจากมีการแบ่งเฟสในการพัฒนาโครงการ และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ต้องการอยู่อาศัยจริงมากกว่าซื้อเพื่อการเก็งกำไร
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากวิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ที่นี่
5. อัตราการว่างงานคนไทยยังสูง พบผู้เสมือนว่างงาน 2.35 ล้านคน
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เผยอัตราการว่างงานของคนไทย อยู่ที่ 1.9% ของผู้มีงานทำ หรือประมาณ 700,000 คน สวนทางกับภาคธุรกิจเอกชนที่ระบุว่า มีจำนวนผู้ว่างงานสูงมากนับล้านคน
ทั้งนี้ การทำสำรวจของ สสช. จะยึดคำนิยามของผู้ว่างงาน ตามองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ซึ่งจากการสำรวจของ สสช.พบว่าผลจากโควิด-19 พบตัวเลขผู้เสมือนว่างงานที่ทำงานน้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน สูงขึ้นอย่างมาก
– ไตรมาส 1 ปี 2563 พบผู้ว่างงาน 395,000 คน หรือ 1% ต่อจำนวนผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน พบผู้เสมือนว่างงาน 4.25 ล้านคน
– ไตรมาส 2 ปี 2563 พบผู้ว่างงาน 745,000 คน หรือ 2% ต่อจำนวนผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน พบผู้เสมือนว่างงานถึง 5.41 ล้านคน
– ไตรมาส 3 ปี 2563 พบผู้ว่างงาน 738,000 คน หรือ 1.9% ต่อจำนวนผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน พบผู้เสมือนว่างงาน 2.68 ล้านคน
– ไตรมาส 4 ปี 2563 พบผู้ว่างงาน 727,000 คน หรือ 1.9% ต่อจำนวนผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน พบผู้เสมือนว่างงาน 2.35 ล้านคน
สำหรับปี 2564 ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านแรงงาน คือ ความไม่แน่นอนของการระบาดของโควิด-19 หากมีการระบาดระลอกใหม่ จะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่ฟื้นตัวจากการระบาดรอบแรก อาจลดตำแหน่งงานลง หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงาน โดยเฉพาะแรงงานในสถานประกอบการขนาดเล็ก สาขาโรงแรมภัตตาคาร ค้าปลีกและค้าส่ง
ขณะที่ผู้ประกอบอาชีพอิสระ จะมีรายได้ลดลงจากการชะลอตัวของการบริโภคภาคเอกชน หากไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ รวมทั้งความล่าช้าในการได้รับวัคซีน และกระจายให้กับประชาชน แรงงาน อาจทำให้ผลกระทบรุนแรงและยาวนานขึ้น
ประกันสังคม เยียวยาคนว่างงาน 8,000 บาท/เดือน
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
