ตลาดรับสร้างบ้านปี 61 สดใส แข่งขันเดือด คาดตลาดโต 1.5 หมื่นล้าน

28 Dec 2017

ตลาดรับสร้างบ้านปี 61 สดใส แข่งขันเดือด คาดตลาดโต 1.5 หมื่นล้าน

สมาคมไทยรับสร้างบ้าน ประเมินความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคและประชาชนประเภท “บ้านเดี่ยวสร้างเอง” ครึ่งหลังปี 2560 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยในครึ่งปีหลังความต้องการสร้างบ้านกลับมาฟื้นตัวได้ดี ทั้งนี้น่าจะเป็นผลมาจากกำลังซื้อที่อั้นมานานและความเชื่อมั่นของประชาชน ที่มีสัญญาณบวกต่อทิศทางการเมืองและเศรษฐกิจในอนาคต

ภาพรวมปี 60 ตลาดโต 1.4 หมื่นล้านบาท
ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านมีการขยายตัวไปในทิศทางเดียวกัน โดยผู้ประกอบการรับสร้างบ้านส่วนใหญ่มียอดขายบ้านเพิ่มขึ้นในช่วงท้ายปี ยกเว้นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมบางจังหวัด ซึ่งกำลังซื้อผู้บริโภคและยอดขายบ้านยังไม่กระเตื้องขึ้น

สมาคมฯ ประเมินมูลค่ารวม “บ้านเดี่ยวสร้างเอง” ทั่วประเทศปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 1.2-1.4 แสนล้านบาท ขณะที่กลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านคาดว่ามีส่วนแบ่งการตลาด 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท ขยายตัวเล็กน้อยหรือใกล้เคียงกับปีก่อน จากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในต่างจังหวัดยังเลือกว่าจ้างผู้รับเหมาทั่วไปและรายย่อยเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากผู้บริโภคในต่างจังหวัดเข้าถึงกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านได้ยาก เพราะส่วนใหญ่ให้บริการอยู่เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และความไม่เข้าใจเรื่องคุณภาพที่แตกต่างและราคาบ้านที่แท้จริง จึงทำให้ผู้บริโภคปฏิเสธจะสร้างบ้านกับผู้ประกอบการรับสร้างบ้านด้วยเพราะรู้สึกว่าราคาแพง

ปัยจัยบวก-ลบ และผลกระทบปี 60
ต้องยอมรับว่าการรัฐประหารเมื่อปี 2557 มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจรับสร้างบ้านมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความอ่อนไหวและความกังวลของผู้บริโภคที่มีต่อแนวโน้มและทิศทางเศรษฐกิจ ตลอดจนความไม่แน่นอนทางการเมืองในอนาคต ทำให้กำลังซื้อและการตัดสินใจของผู้บริโภคส่วนหนึ่งชะลอตัว รวมทั้งปัญหาน้ำท่วมในหลาย ๆ จังหวัดของประเทศก็ฉุดให้กำลังซื้อและความต้องการสร้างบ้านใหม่สะดุดลงเช่นกัน ซึ่งเป็นปัจจัยลบที่บรรดาผู้ประกอบการไม่ได้คาดคิดมาก่อน

ทั้งนี้ ในปี 2560 ที่ผ่านมา ผู้บริโภคเริ่มคลายความกังวลและกำลังซื้อค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สร้างบ้านปรับลดลง เนื่องมาจากนโยบายรัฐบาลและธนาคารมีการแข่งขันปล่อยสินเชื่อกันมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกและมีส่วนช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภคได้ดีในปีนี้ รวมถึงต้นทุนวัสดุก่อสร้างและค่าจ้างแรงงานที่ไม่ปรับเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ราคาบ้านแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดปี 2560 ช่วยให้ผู้ประกอบการแข่งขันกันได้ โดยไม่ต้องพะวงกับต้นทุนในอนาคตมากนัก

อยากรู้อัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน สร้างบ้าน สามารถลองคำนวณสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยด้วยตัวเอง ได้เลย

ในปี 2560 ธุรกิจรับสร้างบ้านมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง

ในปี 2560 ธุรกิจรับสร้างบ้านมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง

รับสร้างบ้านแข่งดุด้านราคาทำตลาดพัง
ในปี 2560 ที่ผ่านมา พบว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ไม่เว้นแม้กระทั่งบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำในกลุ่ม Top 10 หลาย ๆ แห่ง หันมาใช้กลยุทธ์ตั้งราคาขาย (Price List) ให้สูงไว้ก่อน เพื่อจะใช้จัดโปรโมชั่นลดราคาได้มาก ๆ หรือลดราคาลง 15-30% จากราคาปกติ สวนทางกับความเป็นจริง เพราะกำไรขั้นต้นหรือ Margin จากต้นทุนก่อสร้างมีส่วนต่างไม่มากนัก ในขณะที่กลุ่มรับสร้างบ้านรายเล็ก ๆ จะเน้นใช้กลยุทธ์ราคาตั้งราคาขายต่ำไว้ก่อน โดยปรับคุณภาพวัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นต้นทุนหลักลดลงตามราคาขาย ซึ่งกลยุทธ์การตั้งราคาสูงเกินจริง หรือการตั้งราคาต่ำมากแล้วปรับราคาเพิ่มภายหลัง อาจไม่เป็นผลดีหรือกระทบต่อภาพลักษณ์ธุรกิจรับสร้างบ้านและตัวผู้ประกอบการเองในระยะยาว

คาดการณ์แนวโน้มตลาดโตต่อเนื่องถึงปี 61
ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยในปี 2560 ปรับตัวดีขึ้น คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 3.9-4% ในขณะที่กลุ่มผู้บริโภคและประชาชนที่ต้องการสร้างบ้านเองก็เริ่มปรับตัวยอมรับและคลายความกังวลกับทิศทางเศรษฐกิจเช่นกัน สะท้อนได้จากสัดส่วนการขอสินเชื่อเพื่อปลูกสร้างบ้านของผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวหลังจากที่ก่อนหน้านี้ซบเซามาระยะหนึ่ง ถือเป็นสัญญาณที่ดีและคาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องถึงปี 2561 ภายใต้เงื่อนไขธนาคารผู้ให้บริการสินเชื่อยังสามารถคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เอาไว้ได้จนถึงปีหน้า และหากรัฐบาลสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นและกำลังซื้อน่าจะกลับมาอีกครั้ง

ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจคือ รายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index  และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook 

อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ประเมินบ้านสร้างเองทั่วประเทศปี 2561 จะมีมูลค่ารวม 1.3-1.5 แสนล้านบาท ขณะที่กลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านจะมีส่วนแบ่งการตลาด 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2560 โดยเป็นการเติบโตในแง่ของมูลค่าต่อหน่วยที่ปรับขึ้นตามต้นทุน และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการเติบโตของส่วนแบ่งตลาดของผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้าน ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านยังมีการแข่งขันกันสูงพอสมควร ซึ่งจะกดดันไม่ให้ผู้ประกอบการปรับราคาขึ้นได้ง่ายนัก และคาดว่าผู้ประกอบการจะยังใช้โปรโมชั่นลดราคามากระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคเช่นเดียวกับปี 2560

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

POST COMMENT

You may also like these articles

อสังหาฯ ตามเทรนด์ พุ่งเป้าสร้างบ้านผู้สูงอายุ รับตลาดโต

จากงานวิจัยของธนาคารกรุงศรีอยุธยา พบว่า จำนวนผู้สูงอายุของประเทศไทยเ

Continue Reading14 Sep 2017

“น้ำท่วม” ฉุดตลาดรับสร้างบ้านไตรมาส 4 ผู้ประกอบการประคับประคองผ่านวิกฤต

จากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ในหลาย

Continue Reading2 Nov 2017