ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลากหลายประเด็นสำคัญเกิดขึ้นในวงการอสังหาฯ มีการคาดการณ์สภาพตลาดและกำลังซื้อจากกูรู แต่ที่ดูจะฮือฮาคงเป็นเรื่องมาตรการรัฐที่ออกมากระตุ้นภาคอสังหาฯ
ลองมาดูว่าในช่วงนี้มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจในรอบสัปดาห์ (25-29 มกราคม 2564) อีกบ้างได้ที่นี่
1. ครม. ลดจัดเก็บภาษีที่ดิน ต่อเวลาลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง
เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการด้านภาษี 3 มาตรการ ได้แก่
1. ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2563 กับกรมสรรพากรออกไปอีก 3 เดือน ซึ่งเดิมกำหนดสิ้นสุดยื่นวันสุดท้าย 31 มีนาคม 2564 ออกไปเป็นวันที่ 30 มิถุนายน 2564
2. การลดอัตราจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรอบปี 2564 ลง 90% และให้จัดเก็บจริงเพียง 10% ครอบคลุมที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ทำการเกษตร ที่ดินว่างเปล่า และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรมหรืออื่น ๆ
3. ขยายมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนซื้ออสังหาริมทรัพย์ สำหรับราคาบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และลดค่าใช้จ่ายของประชาชนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย
โดยจะลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดจากเดิม 2% ของราคาประเมินทุนทรัพย์เหลือ 0.01% และยังลดค่าจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุดจากเดิม 1% ของมูลค่าที่จำนอง เหลือ 0.01% ออกไปอีก 1 ปี ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก กรณีซื้อบ้านหลังละ 3 ล้านบาท เดิมจะต้องเสียค่าโอนและจดจำนองสูงถึง 60,000 บาท จะลดเหลือ 300 บาทเท่านั้น
รู้จักค่าโอนบ้านก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน
2. คาดปี 65 ตลาดอสังหาฯ ฟื้นตัว
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เผยทิศทางอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2564 คาดว่า จำนวนโครงการอาจมีเพิ่มขึ้น 8% จำนวนหน่วยเปิดใหม่ในปี 2564 น่าจะเพิ่มขึ้น 12%
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เลวร้าย จำนวนหน่วยอาจจะลดลงไปอีกประมาณ 10% จากปี 2563 ส่วนมูลค่าอาจลดลงประมาณ 15% จากปี 2563 อุปทานคงเหลือทั้งตลาดมีแนวโน้มลดลง 5% เนื่องจากมีจำนวนอุปทานเปิดใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยลง เนื่องจากผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัว
ส่วนด้านอุปสงค์/ยอดซื้อปี 2564 ลดลงประมาณ 10% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัว คนว่างงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นโดยรวมตลาดอสังหาฯ ในปี 2564 มีโอกาสแกว่งตัวอยู่ระหว่าง +10% ถึง -10%
คาดการณ์ว่าตลาดที่อยู่อาศัย จะเริ่มดีขึ้นประมาณกลางปี 2565 ซึ่งอาศัยเวลาในการคลี่คลายเพราะกำลังซื้อต่างชาติกลับมา เศรษฐกิจจะกลับมาอย่างมั่นคง อย่างไรก็ตามหากประเทศไทยยังมีปัญหาวิกฤติทางการเมือง โอกาสที่ไทยจะเติบโตก็อาจเป็นการตรงกันข้าม
3. แสนสิริ เสนอรัฐยกเลิก LTV-ลดดอกเบี้ยกู้
ทางด้านบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้คาดการณ์ว่าคงต้องรอ 18 เดือน หรือภายในกลางปี 2565 กว่าที่กำลังซื้อจะฟื้นตัว ในขณะที่แนวโน้มผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก ซึ่งมีสายป่านไม่ยาว เสียเปรียบในการแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ ทั้งด้านเงินทุน ชื่อเสียง และการบริการหลังการขาย จึงคาดว่าจะมีการขายโครงการหรือขายที่ดินเปล่าต่อเนื่องจากปี 2563
พร้อมกันนี้ มีข้อเสนอฝากไปถึงรัฐ ให้ยกเลิกมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value: LTV) เพราะเป็นที่ชัดเจนแล้วตั้งแต่ปี 2563 ว่าไม่มีผู้ซื้อเก็งกำไร แต่ LTV เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในยุคโควิด รัฐบาลควรพิจารณายกเลิกการใช้ LTV ออกไปก่อน และลดดอกเบี้ยเพื่อให้ผู้ประกอบการมีเงินอยู่ในกระเป๋าเพื่อให้สามารถประคองกิจการให้รอดพ้นในยุคโควิด
อัปเดตมาตรการ LTV ช่วยคนกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง
4. ศุภาลัย กระจายความเสี่ยง ยอดขายตลาดออสเตรเลียโต
สำหรับบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) จากการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มศักยภาพการเติบโตของบริษัท ถือว่าประสบความสำเร็จ โดยปี 2563 มียอดขายจากการร่วมลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลีย 1,983 ล้านบาท คิดเป็น 7.5% ของยอดขายรวมของบริษัท ใน ปี 2564 แม้มีสถานการณ์โควิด-19 ก็มั่นใจว่าสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายยอดขาย 5,350 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 19% ของเป้าการขายรวมของบริษัท
ทั้งนี้ ศักยภาพตลาดออสเตรเลียเป็นประเทศใหญ่ ที่มีความมั่นคง ประกอบกับรัฐบาลออสเตรเลีย สร้างแรงจูงใจที่ส่งเสริมการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่แรงกว่าประเทศไทยมาก ในปีที่ผ่านมารัฐช่วยผู้ซื้อบ้านรายละ $40,000 หรือคิดเป็นเงินไทย 930,000 บาท
อ่านข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการอสังหาฯ ในออสเตรเลียของศุภาลัย
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
