สรุปข่าวรอบสัปดาห์นี้ มาดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ ช่วยเหลือคนอยากมีบ้านว่ามีอะไรบ้าง และทางฝั่งผู้ประกอบการในท่ามกลางสภาพตลาดเช่นนี้ มีการปรับตัวอย่างไร DDproperty.com รวบรวมมาให้อัปเดตที่นี่
1. กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% ฟื้นเศรษฐกิจ 64
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังเผชิญความเสี่ยงต่ำ และมีความไม่แน่นอนสูงในระยะข้างหน้า จึงจำเป็นต้องอาศัยแรงสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การคงดอกเบี้ยนโยบายยังช่วยให้ดอกเบี้ยบ้านอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเอื้อต่อการซื้อที่อยู่อาศัย
โดย กนง.ประเมินว่า แม้ว่าในระยะสั้นเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่แรงกระตุ้นของมาตรการภาครัฐและการส่งออกที่ฟื้นตัวดีขึ้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมยังขยายตัวต่อเนื่องได้
อ่านเพิ่มเติมผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ครั้งที่ 1/2564
2. เริ่มใช้แล้วมาตรการรัฐลดค่าโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01%
ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการด้านภาษี หนึ่งในนั้นคือการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนจำนองอสังหาริมทรัพย์ บ้าน-คอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยมีอัตราที่กำหนดดังนี้
1. ลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ จากอัตราปกติ 2.00% เหลือ 0.01%
2. ลดค่าธรรมเนียมการจำนอง จากอัตราปกติ 1.00 % เหลือ 0.01%
เงื่อนไขมาตรการรัฐลดค่าโอน-จดจำนอง
– กรณีซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จากผู้จัดสรรที่ดินที่เป็นที่ดินพร้อมอาคารประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ และซื้อคอนโดจากผู้ประกอบการที่ขอจดทะเบียนอาคารชุด (เฉพาะโครงการใหม่เท่านั้น บ้านหรือคอนโดมือสองไม่ได้ประโยชน์จากมาตรการนี้)
– ต้องโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน จึงจะได้ลดค่าธรรมเนียมการจำนองด้วย
– มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์-31 ธันวาคม 2564
รู้จักค่าโอนบ้านก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน
3. เสนอคลังกระตุ้นอสังหาฯ ชะลอ LTV ชูบ้านดีมีดาวน์
หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เสนอกระทรวงการคลังพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยขอให้ยกเลิกการบังคับใช้มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value Ratio : LTV) ชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีกำลังซื้อ สามารถซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อการลงทุนได้มากขึ้น
พร้อมทั้งเสนอให้พิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านการก่อสร้าง นำโครงการบ้านดีมีดาวน์ ลดภาระการผ่อนดาวน์กลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะทราบผลความคืบหน้าภายใน 2 สัปดาห์
หอการค้าไทยยื่นข้อเสนอต่อ รมว.คลัง ผลักดันเศรษฐกิจ การค้า-ลงทุน-บริการ
4. ตลาดคอนโดในเมือง คาดฟื้นตัวครึ่งหลังปี 65
ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เผยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ผู้ประกอบการมีการเปิดตัวโครงการน้อยมาก ประกอบกับตลาดคอนโดในเมืองมีซัพพลายล้นตลาด โดยมีจำนวน 14,000 ยูนิต อัตราการดูดซับ 7,000 ยูนิตต่อปี ในปี 2564-2565 จะมีคอนโดที่สร้างเสร็จเหลือขายเข้ามาอีก 3,000 ยูนิตต่อปี ทำให้มียอดที่ต้องขายรวมทั้งหมดใน 2 ปีนี้ ประมาณ 20,000 ยูนิต หากดูดซับได้ปีละ 7,000 ยูนิต จะใช้เวลา 3 ปี
อย่างไรก็ดี ในช่วงปี 2564-2565 ยังมีตัวแปรสำคัญจากตลาดต่างชาติเข้ากระตุ้นอัตราการดูดซับ หากเศรษฐกิจดีขึ้นและซัพพลายในตลาดเหลือน้อยลง คาดว่าการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดในเมือง น่าจะอยู่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ส่วนรอบนอกใจกลางเมือง ซึ่งมีสต็อกเหลือขายกว่า 100,000 ยูนิต แต่ละปีมีดูดซับ 25,000 ยูนิต ประกอบกับกำลังซื้อยังไม่แข็งแรง น่าจะฟื้นตัวได้ในปี 2566
ตลาดอสังหาฯ ปี 64 ยังเป็นโอกาสทองของผู้ซื้อ
5. พฤกษางัดแลนด์แบงก์คอนโด ผุดตลาดนัด
บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) นำที่ดินสะสมหรือแลนด์แบงก์ (Land Bank) ใน 5 ทำเล สำหรับการพัฒนาคอนโดมิเนียม แต่ต้องชะลอออกไปก่อน 1-2 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว และตลาดคอนโดยังอยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลาย นำมาทำเป็นตลาดนัด หรือ Urban Street Market โดยทั้ง 5 ทำเล ตั้งอยู่ในย่านชุมชน ได้แก่ ประดิพัทธ์ ติดถนนใหญ่, รัชดาภิเษก ตรงข้ามเดอะมอลล์ท่าพระ, พระราม 2 ย่านโรงพยาบาลบางมด, ท่าน้ำนนท์ เดิมเป็นโรงหนังนครนนท์ นครอินทร์ และถนนสามัคคี จังหวัดนนทบุรี
โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจ เช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าทั่วไป อาหาร แฟชั่น งานศิลปะ ของสะสม ฯลฯ เหมือนตลาดนัดทั่วไป แต่ขนาดไม่ใหญ่มาก โดยจะเริ่มเปิดที่ประดิพัทธ์ในเดือนมีนาคมนี้ ถือเป็นการทดลองโมเดลธุรกิจที่เป็นเทรนด์อนาคต เสมือนมาร์เก็ตเพลสของคนรุ่นใหม่ ในการเริ่มต้นธุรกิจขายผ่านออนไลน์ และต้องการมีเปิดหน้าร้านไว้เป็นอีกหนึ่งช่องทางเพื่อเข้ามาติดต่อกับลูกค้า
ทำธุรกิจออนไลน์เพิ่มรายได้และไม่โดดเดี่ยวอย่างไร?
6. รฟม. ออกโปรฯ ตั๋วเที่ยว MRT ราคาประหยัด สายสีน้ำเงิน-ม่วง
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) จัดโปรโมชันเที่ยวโดยสาร 30 วัน เดินทางในระบบรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และ MRT สายสีน้ำเงิน ได้ไม่จำกัดระยะทางในราคาประหยัด เริ่มต้น 15 เที่ยว ราคา 450 บาท เฉลี่ย 30 บาท/เที่ยว เพื่อร่วมสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
โดยผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสาร MRT PLUS และ MRT ประเภทบัตรบุคคลทั่วไป บัตรโดยสารธุรกิจ และบัตรร่วมธุรกิจ สามารถเลือกเติมเที่ยวโดยสารได้ตามความต้องการ ทั้งแบบเดินทางในรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง (PL Adult Pass) เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์-31 กรกฎาคม 2564 เดินทางในรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน (BL Adult Pass) หรือเดินทางข้ามทั้ง 2 สาย (ML Adult Pass) เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-31 สิงหาคม 2564
ทั้งนี้ โปรโมชันเที่ยวโดยสารมีกำหนดการใช้งานภายใน 45 วันนับจากวันที่ซื้อเที่ยวโดยสาร ใช้เดินทางได้ 30 วัน นับจากวันที่ใช้เดินทางครั้งแรก (ยกเว้น PL Adult Pass 60 เที่ยว 60 วัน ใช้เดินทางได้ 60 วัน นับจากวันที่ใช้เดินทางครั้งแรก) โปรโมชันเที่ยวโดยสารไม่สามารถคืนเงินได้ บัตรนักเรียน นักศึกษายังคงได้รับส่วนลด 10% เด็ก และผู้สูงอายุได้รับส่วนลด 50% ทุกเที่ยวเดินทาง
อัปเดตรถไฟฟ้า BTS-MRT ทุกสาย เวลาเปิด-ปิด และค่าโดยสาร
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
