ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดอสังหาฯ มีอะไรให้ติดตาม ทั้งภาพรวมตลาดอสังหาฯ โปรเจ็กต์ใหม่ เทรนด์ที่อยู่อาศัย พร้อมจับตาทำเลไหนมาแรง DDproperty รวบรวมมาอัปเดตให้กันที่นี่แล้ว
1. เผยเทรนด์ที่อยู่อาศัยมาแรงปี 64
บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (LPN Wisdom) บริษัทวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 และการที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป หันมาให้ความสนใจในการซื้อบ้านพักอาศัยมากขึ้น
โดยปี 2563 มีการเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 44,001 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนถึง 63% ของจำนวนโครงการที่เปิดขาย 70,126 ยูนิต สะท้อนความต้องการของผู้ซื้อที่ให้ความสนใจซื้อบ้านพักอาศัยมากกว่าคอนโด
สำหรับแนวโน้มและทิศทางการออกแบบที่อยู่อาศัยในปี 2564 พบว่า มี 3 แนวโน้มที่สำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อในปัจจุบัน ประกอบด้วย
1.การออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น
2.ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยในการอยู่อาศัย
3.การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์ออกแบบที่อยู่อาศัยไทย ปี 2564
2. จับตาสีลม ทำเลศูนย์กลางทางธุรกิจ-ลงทุน-อยู่อาศัย
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด ระบุว่า สีลมเป็นหนึ่งในสุดยอดทำเลที่น่าสนใจ ที่ดินติดถนนสีลมและพระราม 4 ถูกนำไปพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน เพราะเป็นพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ ผู้คนสัญจรไปมาหนาแน่น มีความพลุกพล่านในความเคลื่อนไหวทางธุรกิจ ขณะที่การพัฒนาที่พักอาศัยรูปแบบอาคารสูง ส่วนใหญ่จะอยู่ซอยแยกย่อยออกไป ทั้งโครงการเก่าและใหม่
โดยปัจจุบันตลาดที่พักอาศัยยังคงมีการหมุนเวียนทั้งการซื้ออยู่อาศัยเองและการให้เช่าจากซัพพลายเดิมในอัตราที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งมาจากความต้องการของกำลังซื้อภายในประเทศและจากต่างประเทศ
อัตราความต้องการที่พักอาศัยในทำเล CBD ราว 15-20% เป็นความต้องการต่างชาติ มีทั้งกลุ่ม Expat และกลุ่มธุรกิจส่วนตัว ซึ่งการพัฒนาที่พักอาศัยใหม่ที่มีความโดดเด่นมากในลักษณะมิกซ์ยูส จะได้รับความนิยมจากตลาดส่วนนี้ไปไม่น้อย ขณะที่กำลังซื้อภายในประเทศยังอยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้สูง
สำหรับความต้องการที่พักอาศัยในทำเล CBD มี 2 รูปแบบ คือ 1.ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และ 2.ซื้อเพื่อการลงทุน ซึ่งมีความน่าสนใจ และน่าจะเป็นจุดขายสำคัญอีกประการหนึ่งของการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยใหม่ในทำเล CBD
3. ตลาดอสังหาฯ ถึงยุคทรานฟอร์ม รองรับคนซื้อบ้าน
นายอธิป พีชานนท์ ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การบริการจัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในยุคนี้ต้องใช้ information จากเดิมใช้ความรู้สึก เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ด้วยตนเองไม่ได้ ต้องอาศัยปัจจัยภายนอก หลัก ๆ คือ สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ เป็นตัวกำหนด
สิ่งที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องระมัดระวัง
1. สภาพคล่อง ที่ต้องเผื่อไว้ 2 ปีล่วงหน้าเพื่อบริษัทให้อยู่รอด
2. การออกแบบที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป
3. การจัดองค์กรให้ไร้รอยต่อเพื่อรองรับกับความเปลี่ยนแปลง ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในยุคนี้ต้องเป็นลูกผสม เป็นไฮบริด ยังไม่ได้ทรานฟอร์มสู่ออนไลน์ 100 % เพราะลูกค้ายังคงต้องการมาดูบ้านก่อนตัดสินใจซื้อ
ทั้งนี้ สิ่งที่เปลี่ยนหลังการมาของโควิด-19 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ จะไม่กระจุกตัว เพราะคนทำงานที่บ้านมากขึ้น หันไปอยู่หัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่มีแหล่งงาน ในกรุงเทพฯ สัดส่วนคอนโดและบ้านจัดสรรจึงเท่ากัน ส่วนต่างจังหวัดบ้านจัดสรรจะมากกว่าคอนโด และหลังโควิด-19 ขนาดที่อยู่อาศัยจะเล็กลง มีการแยกเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น
การออกแบบที่อยู่อาศัยจะเน้นความคุ้มค่าในการใช้พื้นที่ เพราะราคาที่ดินเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องออกแบบให้มัลติฟังก์ชั่นมากขึ้น เพื่อรองรับการใช้ชีวิตในบ้าน ที่มากกว่าการอยู่อาศัย คือ สามารถทำงาน ทำอาหาร พักผ่อนได้ รวมทั้งให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยและสุขลักษณะมากขึ้นด้วย
4. เปิดโผ 10 คอนโดทำเลทอง มูลค่า 10,000 ล้าน
บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการเคลื่อนไหวของโครงการอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ ที่มีแรงกดดันจากภาวะราคาที่ดินแพง ทำให้การพัฒนาโครงการมีมูลค่าสูงถึงระดับ 10,000 ล้านบาท เกิดขึ้นจำนวนมาก เพื่อใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงที่สุด
โดยช่วง 5 ปี (2559-2563) ราคาที่ดินในกรุงเทพฯ ปรับตัวสูงขึ้นมาก ที่ดินบางแปลงในย่าน CBD หรือศูนย์กลางธุรกิจมีการซื้อขายสูงกว่าตารางวาละ 3.8 ล้านบาท โดยโครงการส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาที่ดินในรูปแบบมิกซ์ยูสที่ผสมการพัฒนาอสังหาฯ 2 รูปแบบขึ้นไป
เช็กทำเล ราคาที่ดินแพงที่สุดในปี 2563
สำหรับคอนโดมูลค่าโครงการหมื่นล้าน พบว่า ทำเลที่ตั้งกระจายอยู่ในพื้นที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พระราม 9 เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ จากสถิติสิ้นปี 2563 มีคอนโดมูลค่าโครงการหมื่นล้านที่อยู่ระหว่างเปิดขาย 10 อันดับแรก ดังนี้
1. เดอะเรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล และแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์
2. ศุภาลัย ไอคอน สาทร
3. โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์
4. โนเบิล เพลินจิต
5. พาร์ค 24
6. เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก
7. พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ
8. เอ็กซ์ที พญาไท
9. วิสดอม 101
10. ไซมิส พระราม 9
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของทั้ง 10 โครงการ
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
