ในรอบสัปดาห์นี้ แนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างไร เมื่อต้องเผชิญกับปัจจัยลบอย่างโควิด-19 ที่กระทบทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ที่น่าสนใจ DDproperty รวบรวมมาให้อัปเดตที่นี่
1. หนี้ครัวเรือน ปี 64 สูงสุดเป็นประวัติการณ์
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจสถานภาพแรงงานไทยปี 2564 จากกลุ่มตัวอย่างแรงงานที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท จำนวน 1,256 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 18-22 เมษายน 2564
จากการสอบถามภาระหนี้สินปี 2564 เทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่า 98.1% มีหนี้ มีเพียง 1.9% ที่ไม่มีหนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีหนี้ 95% และไม่มีหนี้ 5% โดยภาระหนี้ของครัวเรือนแรงงานไทยมีสูงถึง 205,809 บาท/ครัวเรือน เพิ่มขึ้น 29.56% จากปี 2562 ที่มีภาระหนี้ 158,855 บาท หรือมีภาระหนี้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่มีภาระผ่อนชำระ 8,024 บาท/เดือน โดยส่วนใหญ่ 71.6% กู้หนี้ในระบบ มีภาระผ่อนชำระ 7,781 บาท/เดือน ดอกเบี้ยเฉลี่ย 11.25% ต่อปี และอีก 28.4% กู้หนี้นอกระบบ มีภาระผ่อนชำระ 3,223 บาท/เดือน ดอกเบี้ย 19% ต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้มีมากถึง 85.1% ที่เคยผิดนัดชำระหนี้ และอีก 14.9% ไม่เคย
ทั้งนี้ สาเหตุการก่อหนี้ที่มากขึ้น มาจากเพื่อใช้จ่ายทั่วไป ประกอบกับมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ แม้ว่าเงินเดือนหรือรายได้จะไม่ถูกปรับลด แต่ค่าครองชีพสูงขึ้นมาก รวมถึงต้องจ่ายหนี้บัตร หนี้บ้าน หนี้รถ ค่ารักษาพยาบาล และลงทุน เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าว ม.หอการค้าไทย สำรวจสถานภาพแรงงานไทย
2. จับตา 10 อสังหาฯ ต่างจังหวัด สต็อกเหลือขาย
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยผลสำรวจ ณ สิ้นปี 2563 มีการพัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งหมด 17,785 โครงการ รวม 3,191,675 หน่วย มูลค่ารวม 8,949,939 ล้านบาท เฉลี่ยหน่วยละ 2.804 ล้านบาท
ส่วนใหญ่หรือสัดส่วน 74% จำนวน 2,369,251 หน่วย พัฒนาในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ตลาดต่างจังหวัดมีสัดส่วนเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น และในแง่มูลค่าพบว่า ตลาดกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีสูงถึง 6,555,888 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 73% ของตลาดทั่วประเทศ
สำหรับตลาดต่างจังหวัด ณ สิ้นปี 2563 จังหวัดที่มีหน่วยขายมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่
- ชลบุรี มีหน่วยเหลือขาย 36,013 หน่วย
- ระยอง มีหน่วยเหลือขาย 19,585 หน่วย
- เชียงใหม่ มีหน่วยเหลือขาย 12,761 หน่วย
- ชะอำ-หัวหิน มีหน่วยเหลือขาย 8,708 หน่วย
- โคราช มีหน่วยเหลือขาย 7,237 หน่วย
- ฉะเชิงเทรา มีหน่วยเหลือขาย 7,059 หน่วย
- ภูเก็ต มีหน่วยเหลือขาย 6,171 หน่วย
- อยุธยา มีหน่วยเหลือขาย 5,663 หน่วย
- ขอนแก่น มีหน่วยเหลือขาย 4,964 หน่วย
- หาดใหญ่ มีหน่วยเหลือขาย 2,983 หน่วย
โดยผู้ประกอบการที่เบนเข็มมาจับตลาดต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่ขยายฐานมาจับกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด เนื่องจากการจะเปิดตลาดใหม่ต้องอาศัยทั้งเงินทุนและประสบการณ์ และความสามารถในการแข่งขันที่สูง
อ่านข่าวเพิ่มเติม เช็กสต๊อกเหลือขาย 10 อสังหาฯ ต่างจังหวัด
3. ที่ดินทำลราชดำริ เปิดให้เช่า ดึงนักลงทุนอสังหาฯ
ที่ดินขนาด 6 ไร่ 51 ตารางวา พร้อมอาคารสำนักงานและตึกอะพาร์ตเมนต์ ตั้งอยู่ในใจกลางศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ ริมถนนราชดำริ ตรงข้ามราชกรีฑาสโมสร และติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชดำริ ซึ่งเป็นของวชิราวุธวิทยาลัย ได้เปิดให้นักลงทุนที่สนใจยื่นข้อเสนอสำหรับการเช่าระยะยาว 30 ปี หรือ 50 ปี โดยเปิดรับข้อเสนอการเช่าและจะปิดรับภายในกลางเดือนกรกฎาคม
เจแอลแอล ตัวแทนจัดหาผู้เช่า กล่าวว่า นักลงทุนสามารถเลือกที่จะปรับปรุงยกระดับอาคารสำนักงานและอาคารอะพาร์ตเมนต์ที่มีอยู่เดิมบนที่ดินปัจจุบัน หรือจะพัฒนาโครงการใหม่ขึ้นมาแทนได้ อาทิ โครงการมิกซ์ยูส อาคารสำนักงานเกรดเอ โรงแรมระดับหรู หรือคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่
ทั้งนี้ ที่ดินดังกล่าวเหมาะกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินสูง มองหาโอกาสการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมบนทำเลใจกลางกรุงเทพฯ โดยปัจจุบันได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะถือเป็นที่ดินในทำเลชั้นดีที่แทบไม่มีเสนอขาย หรือขายในราคาที่สูงมาก
เช็กราคาประเมินที่ดิน ค้นหาราคาประเมินจากกรมธนารักษ์ แบบไม่มีเลขโฉนดหรือเลขที่ดิน
4. ราคาที่พักอาศัยทั่วโลกเพิ่มขึ้น ช่วงโควิด-19
ไนท์แฟรงค์ เผยราคาที่พักอาศัยย่านไพรม์ในเอเชียแปซิฟิกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากผลดัชนีที่พักอาศัยย่านไพรม์ทั่วโลก (Prime International Residential Index หรือ PIRI 100)
ดัชนีดังกล่าวแสดงการเคลื่อนไหวของราคาที่พักอาศัยหรูใน 100 เมืองและตลาดบ้านหลังที่สองทั่วโลกในช่วง 12 เดือน สิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา พบว่ามี 4 เมืองในเอเชียแปซิฟิกที่ติดใน 5 อันดับสูงสุด
ราคาที่พักอาศัยย่านไพรม์ทั่วโลกปรับตัวดีกว่าที่คาดไว้ในปี 2563 โดยพื้นที่กว่า 100 แห่งที่อยู่ใน PIRI 100 มีราคาฉลี่ยสูงขึ้น 1.9% โดยเพิ่มขึ้นจาก 1.8% ในปี 2562 ส่วนตลาดย่านไพรม์ในเอเชียแปซิฟิก มี 14 จาก 23 แห่งที่มีราคาเติบโต
โดยเมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งราคามีการปรับตัวสูงขึ้นถึง 18% มาจากมาตรการการรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ภายในประเทศ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว อัตราสินเชื่อที่พักอาศัยที่ต่ำเป็นพิเศษ และอุปทานอสังหาฯ ที่มีจำกัด เป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการเติบโต
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยต่ำและความก้าวหน้าของวัคซีน ถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ที่ทำให้ตลาดที่พักอาศัยย่านไพรม์ในเอเชียแปซิฟิกเติบโตในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19
5. ประเมินรอบใหม่ 3 กรณีชี้ทิศทางเศรษฐกิจ-อสังหาฯ
LPN Wisdom ระบุว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ในเดือนเมษายน 2564 ทำให้ต้องมีการปรับประมาณการคาดการณ์แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ใหม่ โดยแบ่งแนวทางการวิเคราะห์สถานการณ์ออกเป็น 3 กรณี ตามประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
กรณีฐาน (Base Case) เศรษฐกิจเติบโต 3%
- รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ใน 1 เดือน
- เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยได้ตามแผน ในเดือนกรกฎาคม 2564
- กระจายวัคซีนได้ตามแผนที่วางไว้
ในกรณีนี้ คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 จะมีอัตราการเติบโตที่ 5-6% โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จำนวน 75,000-76,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 292,000-298,000 ล้านบาท
กรณีเลวร้าย (Worse Case) เศรษฐกิจติดลบ 0.5%
- ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ไตรมาสสองของปี 2564
- จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่ฟื้นตัวในปี 2564
- กระทบความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภค
- อัตราการว่างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ในกรณีนี้ คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 จะมีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงกับปี 2563 โดยมียอดการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จำนวน 70,000-71,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 270,000-280,000 ล้านบาท
กรณีเลวร้ายที่สุด (Worst Case) เศรษฐกิจติดลบ 1.7%-2%
- ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
- จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวช้ากว่ากรณีฐานค่อนข้างมาก
- การแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์รุนแรงจนวัคซีนด้อยประสิทธิภาพลง ต้องพัฒนาวัคซีนใหม่
- กำลังซื้อภายในประเทศลดลง
- อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น
ในกรณีนี้ คาดว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 จะมีแนวโน้มติดลบ 5-6% เมื่อเทียบกับปี 2563 เป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่สองจากปี 2563 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ติดลบ 37% เทียบกับปี 2562 โดยคาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จำนวนประมาณ 65,000-66,000 หน่วย มูลค่าประมาณ 260,000-265,000 ล้านบาท
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า