ประเด็นเด่นรอบสัปดาห์ ตลาดอสังหาฯ ส่อแววดี มีปัจจัยบวกหนุน เร่งฟื้นความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ จับสัญญาณตลาดคนโดกรุงเทพฯ เมืองท่องเที่ยว และราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ DDproperty รวบรวมมาอัปเดตให้ที่นี่
1. แนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 6% เฉียดล้าน
เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) เผยรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) หรือรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ถือเป็นเส้นทางที่ดีมากที่สุดสายหนึ่งเพราะสามารถวิ่งเข้าเมืองได้โดยตรง ทำให้ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นมาก และทำให้เมืองขยายไปทางตะวันออกยิ่งขึ้น
จากการศึกษาพบว่า ราคาที่ดินตามราคาตลาดที่แพงที่สุดอยู่ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย อยู่ที่ 960,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2563 เนื่องจากเป็นโซนที่มีการพัฒนาอสังหาอสังหาริมทรัพย์อย่างเข้มข้นอยู่แล้ว ราคาจึงสูงมากเมื่อเทียบกับสถานีอื่น ๆ
รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกยังทำให้ราคาที่ดินริมถนนพระราม 9 เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะมีการปรับเปลี่ยนเส้นทางให้ผ่านถนนสายนี้ โดยสถานี รฟม. และสถานีประดิษฐ์มนูธรรม มีราคาตลาดค่อนข้างสูงอยู่ที่ 550,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 13% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และในอนาคตถนนพระราม 9 จะมีศักยภาพรุดหน้าตามถนนรัชดาภิเษกช่วงอโศก-ห้วยขวาง
ค้นหาประกาศขายที่ดินในพระราม 9
ทำเลถนนรามคำแหงช่วงต้นถึงแยกลำสาลี 5 สถานี มีราคาใกล้เคียงกัน ประกอบด้วยสถานีรามคำแหง 12, สถานีรามคำแหง, สถานี กกท., สถานีหัวหมาก และสถานีลำสาลี ราคาที่ดินอยู่ที่ 350,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 11% จากปี 2563
ขณะที่ช่วง 3 สถานีขอบเมืองอย่างสถานีศรีบูรพา, สถานีคลองบ้านม้า และสถานีสัมมากร ราคาที่ดินอยู่ที่ 220,000 บาท/ตารางวา
ในช่วงถัดไป 4 สถานี ได้แก่ สถานีน้อมเกล้า, สถานีราษฎร์พัฒนา, สถานีมีนพัฒนา และสถานีเคหะรามคำแหง ราคาที่ดินอยู่ที่ 150,000-160,000 บาท/ตารางวา
ส่วน 2 สถานีปลายทาง คือ สถานีมีนบุรี ซึ่งเป็นช่วงใจกลางความเจริญในเขตมีนบุรี มีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 180,000 บาท/ตารางวา หรือเพิ่มขึ้น 11% ส่วนสถานีสุวินทวงศ์ (แยกร่มเกล้า) แม้ยังมีราคาต่ำกว่าอยู่ที่ 140,000 บาท/ตารางวา แต่ก็มีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาค่อนข้างสูงที่ 11% เช่นกัน
2. ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขยับตัวสูงขึ้นใน 10 ไตรมาส
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ในภาวะปัจจุบัน (Current Situation Index) ภาพรวมของไตรมาส 4 ปี 2564 มีค่าดัชนีเท่ากับ 52.0 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และมีค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0
สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นเป็นไตรมาสแรก หลังจากที่มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นต่ำกว่าค่ากลางต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลาถึง 10 ไตรมาส
ขณะที่ความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) มีค่าเท่ากับ 62.0 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.2 และมีการเพิ่มขึ้นเกือบทุกปัจจัย สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้าในเชิงบวกเพิ่มขึ้น โดยมี 3 ปัจจัยสนับสนุน
1) ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
2) มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่รัฐบาลประกาศต่ออายุมาตรการเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 และขยายครอบคลุมไปถึงบ้านมือสอง จากเดิมที่ให้เฉพาะบ้านใหม่ ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
3) นโยบายในการเปิดประเทศในต้นเดือนธันวาคม 2564 คาดว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อการกลับมาของกำลังซื้อที่อยู่อาศัยของคนต่างชาติ
อัปเดตมาตรการรัฐ ช่วยคนซื้อบ้าน-คอนโด
3. คอนโดวิวทะเลหัวหินราคาแรง แตะ 250,000 บ./ตร.ม.
ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย เผยภาพรวมตลาดคอนโดในบริเวณพื้นที่ชะอำ-หัวหิน-เขาเต่า ครึ่งปีหลัง 2564 ยังชะลอตัว จำนวนโครงการที่เปิดขายใหม่ทั้งปีมีเพียง 2 โครงการ และผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอด 2 ปี ส่งผลให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ยังคงรอดูสถานการณ์เปิดตัวโครงการหรือพัฒนาโครงการใหม่
อย่างไรก็ดี แม้หัวหินจะเป็นที่สถานที่พักตากอากาศยอดนิยม แต่ยอดขายคอนโดยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ภาพรวมจำนวนหน่วยเหลือขาย ณ ธันวาคม ปี 2564 มีจำนวน 7,484 หน่วย แบ่งเป็นโครงการที่เปิดมานานเกิน 5 ปี และยังมีห้องเหลือขายอยู่ถึง 3,200 หน่วย คิดเป็น 50% ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด
กลุ่มผู้ซื้อหลักเป็นกลุ่มคนไทยที่อยู่กรุงเทพฯ ถึง 90% กลุ่มคนไทยในต่างจังหวัด 5% และชาวต่างชาติ 5% เป็นกลุ่มวัยเกษียณในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย, นอร์เวย์, เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ซึ่งนิยมซื้อบ้านหรือวิลล่ามากกว่า เนื่องจากค่อนข้างมีความสงบและเป็นส่วนตัวเพราะอยู่อาศัยเป็นระยะเวลานาน
ด้านราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% จากครึ่งปีแรก 2564 โครงการใหม่ที่เห็นวิวทะเลมีระดับราคาขายต่อห้องเฉลี่ยสูงถึง 250,000 บาท/ตารางเมตร ส่วนราคาเสนอขายเฉลี่ยของคอนโดในหัวหินที่ไม่เห็นวิวทะเล มีระดับราคาเสนอขายเฉลี่ยอยู่ที่ 70,700 บาท/ตารางเมตร ราคาขายค่อนข้างทรงตัวและลดลง 0.1% จากครึ่งปีแรก 2564 เนื่องจากโครงการที่ยังมีห้องว่างเหลือขายเกิน 50% บริเวณโซนชะอำ ผู้ประกอบการยังคงจัดโปรโมชั่นส่วนลดต่อเนื่องเพื่อปิดการขายโครงการ
แนวโน้มทิศทางตลาดคอนโดในหัวหินในปี 2565 คาดว่าคอนโดบริเวณติดทะเลมีจำนวนหน่วยขายค่อนข้างน้อยและมีแนวโน้มที่ราคาขายจะปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่โครงการบริเวณโซนชะอำ อาจจะต้องใช้เวลาในการระบายหน่วยเหลือขายในบางโครงการที่ราคาอาจจะปรับลงอันเนื่องมาจากอายุของคอนโด
4. จับสัญญาณดีมานด์วัยทำงานฟื้นตลาดคอนโด ปี 65
สมาคมอาคารชุดไทย ประเมินภาพรวมตลาดคอนโดในปี 2565 คาดเติบโต เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ทุกคนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ หลังจากคลายล็อกดาวน์ โดยมองว่าดีมานด์ของคอนโดต้องกลับมาอีก ประกอบกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ไม่ได้เพิ่มขึ้นเหมือนก่อนช่วงเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีการดูดซับสินค้าห้องชุดออกไปพอสมควร
แม้ยอดขายและยอดโอนที่แม้จะไม่มากเหมือนก่อนโควิด-19 ระบาด แต่เชื่อมั่นว่าคนที่มีความจำเป็น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานที่มองหาที่อยู่อาศัย จะส่งผลให้ดีมานด์คอนโดกลับมา โดยปัจจุบันกลุ่มวัยทำงานเลือกการมีที่อยู่อาศัยอยู่ใกล้ที่ทำงาน ถ้าบ้านไกลต้องเช่าอยู่ในเมือง
โดยการฟื้นตัวของคอนโด เป็นการฟื้นตัวในทุกกลุ่ม เพราะอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ คนที่มีเงินสด เงินเก็บ ตั้งแต่กลุ่มกลาง-บน เป็นกลุ่มที่เห็นสัญญาณเงินเฟ้อ การฝากเงินไว้กับธนาคาร อัตราผลตอบแทนไม่ทันกับการเพิ่มของอัตราเงินเฟ้อ จึงเลือกที่จะนำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ในช่วงโควิด-19 กลุ่มคอนโดระดับล่างอาจจะชะลอบ้าง ส่วนระดับบนมีเงินสดในมือ เพียงแต่รอดูวิกฤตโควิด-19 ว่าจะยาวนานแค่ไหน
ทั้งนี้ คาดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีทั้งปี 2565 ภาพรวมดีขึ้น ใกล้เคียงกับที่กระทรวงการคลังประเมิน บวกกับการส่งออก และการลงทุนจากต่างชาติผ่านการขอรับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ดีขึ้น เมื่อทุกคนมีรายได้ มีงานทำ ความต้องการที่อยู่อาศัยจะตามมา โดยคาดว่าตลาดคอนโดในปีนี้ จะเติบโตได้ 10-15% หลังจากในปีที่ผ่านมาติดลบถึง 30%
สรุปข่าวจากผู้จัดการออนไลน์: นายก ส.อาคารชุดไทยมั่นใจดีมานด์คอนโดฯ พลิกฟื้น คาดปี 65 โตได้ 10-15%
5. เตรียมสู้ศึกปี 65 บิ๊กอสังหาฯ เร่งระดมทุน ขยายธุรกิจ
ผู้ประกอบการเร่งระดมเม็ดเงิน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ในรูปแบบการออกหุ้นกู้ หรือตราสารหนี้ เตรียมพร้อมลงทุนและขยายธุรกิจ เชื่อมั่นเศรษฐกิจภายในประเทศ มาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง จะช่วยผลักดันการฟื้นตัวของภาคที่อยู่อาศัย เตรียมความพร้อมเปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในปี 2565
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดระดมทุนในรูปแบบหุ้นกู้ดิจิทัล มูลค่า 1 พันล้านบาท ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอดอกเบี้ยคงที่ 3.10% ต่อปี ระยะเวลาลงทุนเพียง 2 ปี 6 เดือน รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เปิดจองในแอปพลิเคชันเป๋าตัง และมีราคาเปิดขาย เริ่มที่ 1,000 บาท ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีการออกหุ้นกู้ของธุรกิจอสังหาฯ คาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หนุนให้เกิดการลงทุนในภาคอสังหาฯ
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เตรียมเปิดขายหุ้นกู้ 2 รุ่น ในช่วงเดือนมกราคมนี้ อายุ 1 ปี 6 เดือน เสนออัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี ขณะที่หุ้นกู้อายุ 2 ปี 6 เดือน ให้อัตราดอกเบี้ย 5.40% ต่อปี โดยการเพิ่มทุนดังกล่าว จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและความพร้อมให้กับบริษัทในการลงทุนและขยายธุรกิจใหม่ ๆ
บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เร่งระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ ๆ โดยอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการ เพื่อขอเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ต่อ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งคาดจะเปิดจองในช่วงเดือนมกราคมนี้ รูปแบบ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี มั่นใจเศรษฐกิจภายในประเทศ และการผ่อนคลายมาตรการ LTV จะช่วยผลักดันการฟื้นตัวของภาคที่อยู่อาศัย
สรุปข่าวจากฐานเศรษฐกิจ: บิ๊กอสังหาฯ ลุยระดมทุน ระเบิดศึกปี 2565 ดันหน่วยใหม่โต 50%
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า