จับตาเปิดตัวคอนโดลด 23% ผู้ประกอบการเร่งระบายสต็อก

20 Feb 2020

อสังหาฯ ปี 2563 มีแนวโน้มการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง 10% เมื่อเทียบกับปี 2562 โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมลดลงถึง 23% โดยผู้ประกอบการยังคงเร่งระบายสต็อกคงค้างกว่า 2 แสนหน่วย

ปี 2563 ถือเป็นช่วงพักเหนื่อยของตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่โหมหนัก เร่งเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 โดยเฉพาะคอนโดมเนียมตามแนวรถไฟฟ้า แม้จะมีปัจจัยลบมากระทบ ประกอบกับแบงก์เข้มงวดมากขึ้นในการออกสินเชื่อ แต่ก็ยังมีมาตรการรัฐออกมากระตุ้นกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายของปีเสมอ ช่วยให้ผู้ประกอบการเบาใจ โดยเฉพาะในเซกเมนต์ที่ตรงกับเรียลดีมานด์ ช่วยระบายสต็อกคงค้าง ในระหว่างที่รอตลาดอสังหาริมทรัพย์ปรับสมดุล

 

Subscription Banner for Article

 

ชะลอโครงการใหม่ เน้นระบายสต็อกกว่า 200,000 หน่วย

จากข้อมูลของ LPN Wisdom ระบุว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มชะลอแผนการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในปี 2563 เนื่องจากตลาดมีสินค้าคงเหลือที่รอขาย ณ สิ้นสุดปี 2562 อยู่ที่ 214,000 หน่วย เพิ่มขึ้นในสัดส่วน 10% จากจำนวนสินค้ารอการขาย 195,000 หน่วยในปี 2561 ซึ่งต้องใช้เวลาในการขายอย่างน้อย 24 เดือน ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในปี 2563 เมื่อเทียบกับปี 2562

 

แบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ กระทบอสังหาฯ ขายออกช้า

โดยในปี 2563 คาดจะมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณ 50,000-55,000 หน่วย หรือประมาณ 110-120 โครงการ โดยเน้นตลาดที่ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อยูนิต และจะมีสัดส่วนการขายอยู่ที่ประมาณ 30% จากจำนวนที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดหรือประมาณ 15,000 หน่วย ซึ่งเป็นอัตราขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากปี 2562 ที่มีอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ 33%

ทั้งนี้ เป็นผลจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินจากนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในการกำกับดูแลสัดส่วนหนี้สินต่อรายได้ (Debt Service Ratio) และกำลังซื้อทั้งจากภายในและต่างประเทศที่ลดลง ตลอดจนผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว

 

aerial view of home and house in village of land development outskirt of bangkok thailand on cloudy day

 

เจาะตลาดแนวราบ 3-5 ล้านบาท เตรียมขาย 50,000 หน่วย

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝด ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ในปี 2563 ประมาณ 50,000-55,000 หน่วย หรือประมาณ 280-300 เฟส/โครงการ ที่ระดับราคาประมาณ 3-5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในสัดส่วน 9% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 259 เฟส/โครงการ คิดเป็นจำนวน 45,959 หน่วย โดยประมาณว่าจะมีปริมาณการขายในปี 2563 สำหรับโครงการที่เปิดตัวใหม่ประมาณ 24% ของจำนวนการเปิดขายใหม่ทั้งหมด

ทั้งนี้ การที่ผู้ประกอบการหันมาเปิดตัวโครงการในแนวราบเพิ่มขึ้น เพื่อตอบรับกับความต้องการซื้อในตลาดที่เพิ่มขึ้น และเป็นการบริหารจัดการต้นทุนในการดำเนินงานเนื่องจากโครงการแนวราบจะมีต้นทุนในการก่อสร้างตามกำลังซื้อในตลาด ไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างทั้งโครงการในทันที ทำให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการต้นทุนให้สอดคล้องกับกำลังซื้อในตลาด

 

เปิดตัวโครงการใหม่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ลดลง 10%

จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้จำนวนการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งหมดในปี 2563 จะอยู่ที่ 100,000-110,000 หน่วย หรือ ลดลงประมาณ 10% หรือมูลค่าประมาณ 420,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 110,500 หน่วย หรือมูลค่า 440,000 ล้านบาท หรือลดลง 8% เมื่อเทียบกับปี 2561

ขณะที่ประมาณการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2563 จะใกล้เคียงกับปี 2562 ที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ 196,000 หน่วย ซึ่งปรับตัวลดลง 6% เมื่อเทียบกับปี 2561

 

Condo Mrt Blue line

 

3 ทำเลดาวรุ่ง ใกล้รถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินมาแรง

สำหรับทำเลที่น่าสนใจในการเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2563 ยังคงเป็นทำเลที่อยู่ในแนวรถไฟฟ้า โดยเฉพาะในแนวรถไฟฟ้าสายใหม่และส่วนต่อขยายที่ระดับราคาที่ดินยังไม่สูงมากนัก ใน 3 ทำเลหลัก คือ แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงสถานีบางอ้อ-บางขุนนนท์ แนวถนนจรัญสนิทวงศ์ ที่ได้เปิดทดลองให้ใช้งานในปี 2563 สำหรับคอนโดมิเนียมระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท

 

แนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่จะเปิดให้บริการปี 2564 และแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มที่จะเปิดให้บริการในปี 2566 ช่วงสถานีฉลองรัช-ลำสาลี-ประดิษฐ์ มนูธรรม (ถนนลาดพร้าว-รามคำแหง) สำหรับคอนโดมิเนียมระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทและบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว ที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท และจุดเชื่อมต่อสถานีบางหว้า ถนนกัลปพฤกษ์ สำหรับโครงการบ้านพักอาศัย ระดับราคา 2-5 ล้านบาท

 

Thailand, South East Asia Still Popular With Chinese Buyers

 

กำลังซื้อต่างชาติลด นักลงทุนจีนโดนพิษไวรัสโควิค-19

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะกำลังซื้อจากนักลงทุนจากจีน ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิค-19 ทำให้มีกำลังซื้อจากตลาดนี้ลดลง ในขณะที่ผู้ประกอบการที่มียอดขายคอนโดมิเนียมให้กับนักลงทุนชาวจีนตั้งแต่ปี 2561 และจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2563 ไม่น้อยกว่า 14,000 หน่วย อาจจะไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าได้ทั้งหมด

 

อย่างไรก็ตาม จากสภาพตลาดดังกล่าว สอดคล้องกับรายงาน DDproperty Thailand Property Market Index ฉบับล่าสุด ที่พบว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวตลอดปี 2562 หนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ Loan to Value: LTV ของทางธนาคารแห่งประเทศไทย และภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ที่ประกาศใช้ปี 2563 ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ซื้อไม่มั่นใจ และชะลอการซื้อที่อยู่อาศัย ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ และเร่งขายสต็อกคงค้าง โดยชะลอการขึ้นราคาที่อยู่อาศัย และจูงใจผู้ซื้อด้วยโปรโมชั่น รวมถึงแคมเปญลด แลก แจก แถม ต่าง ๆ

 

สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

POST COMMENT

You may also like these articles

EEC ปัจจัยหนุนตลาดที่อยู่อาศัย

จับตาอสังหาฯ พื้นที่ EEC ศรีราชาน่าสนใจ เป็นศูนย์รวมแหล่งงาน และสถานศึกษ

Continue Reading11 Feb 2020

กางแผนรุกตลาดอสังหาฯ ปี 63 ชูทำเลเด่น หลากเซกเมนต์ เน้นคนรุ่นใหม่

เปิดเกมรุกรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 63 ผู้ประกอบการผนึกพันธมิตร ชูกลยุท

Continue Reading14 Feb 2020