สรุปข่าวเด่นอสังหาฯ รอบสัปดาห์ 31 ม.ค.-4 ก.พ. 65

5 Feb 2022

ที่ดินแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู เพิ่มขึ้น 11.7% สูงสุดกว่า 3 แสน บ./ตร.ว.

ในรอบสัปดาห์นี้ มีหลากหลายประเด็นอสังหาฯ น่าสนใจ ทั้งแนวโน้มตลาดคอนโด ปี 65 ราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้า ทิศทางการพัฒนาโครงการอสังหาฯ รวมทั้งการขอออกโฉนดดิน และตรวจสอบเครดิตบูโร ที่ทั้งง่ายและฟรี DDproperty รวบรวมมาให้อัปเดตที่นี่

Subscription Banner for Article

1. ที่ดินแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู เพิ่มขึ้น 11.7% สูงสุดกว่า 3 แสน บ./ตร.ว.

ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA ระบุว่า ราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี 30 สถานี ปรับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แม้ไม่เท่ารถไฟฟ้าสายอื่น ๆ แต่ก็นับว่าปรับตัวไปมากพอสมควร ตลอดทั้งเส้นมีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 11.7% สูงกว่าอัตราเฉลี่ย 4.7% ของราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล แสดงว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายนี้ สร้างศักยภาพขึ้นใหม่ให้กับราคาที่ดิน

โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับราคาที่ดินตามสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู 6 ข้อ ดังนี้

1) ที่ดินบริเวณโดยรอบสถานี “ศูนย์ราชการนนทบุรี” มีราคาสูงเป็นพิเศษที่ 2.9 แสนบาท/ตารางวา เพราะเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-บางใหญ่ ก่อให้เกิดการพัฒนาตามทางเชื่อมต่อ (Transit Oriented Development หรือ TOD)

2) ราคาที่ดินช่วงต่อจากสถานี “ศูนย์ราชการนนทบุรี” ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะไม่ได้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่เป็นย่านที่อยู่อาศัย

3) ราคาที่ดินปรับตัวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ช่วงสถานี “เมืองทองธานี-สถานีหลักสี่” เพราะมีส่วนราชการและกิจกรรมเชิงพาณิชย์หนาแน่น โดยเฉพาะ “สถานีหลักสี่” จุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง แนวโน้มทำให้เกิดศักยภาพเพิ่มขึ้น และทำให้ศูนย์การค้าหลักสี่พลาซ่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัว

4) ช่วงสถานี “ราชภัฏพระนคร-สถานีวงเวียนหลักสี่” คาดว่ามีการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินสูงเป็นพิเศษ เนื่องจากมีศักยภาพในการเป็นพื้นที่ TOD เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว สะท้อนออกมาเป็นราคาที่ดินตั้งแต่ 3-3.2 แสนบาท/ตารางวา

5) ราคาที่ดินปรับตัวขึ้นแบบไม่สูงมากนักจนถึง “สถานีคู้บอน” ราคาที่ดินอยู่ที่ 2.7 แสนบาท/ตารางวา หรือเพิ่มขึ้น 15% รวมทั้ง “สถานีรามอินทรา 83” ราคาที่ดิน 2 แสนบาท/ตารางวา เพิ่มขึ้น 15% เช่นกัน

6) หลังจากนั้น ราคาที่ดินจะเพิ่มขึ้นในอัตราค่อนข้างสูง เพราะผ่านย่านการค้าและในพื้นที่ที่มีการพัฒนาที่ค่อนข้างเข้มข้น จนถึง “สถานีตลาดมีนบุรี” ย่านชุมชนชานเมือง ทำให้ราคาที่ดินเพิ่มเป็น 2.2 แสนบาท/ตารางวา หรือเพิ่มขึ้น 18.2% โดยจุดเด่นของสถานีตลาดมีนบุรีอยู่ที่การเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)

สรุปข่าวจากประชาชาติธุรกิจ: ราคาที่ดินรถไฟฟ้าสายสีชมพู 30 สถานีราคาแพงพรึ่บ สวนทางโอมิครอน

 

2. ปี 65 คอนโดไม่เกิน 3 ล้าน ยังครองใจเรียลดีมานด์ กำลังซื้อหลัก

ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย เผยปี 2565 ตลาดคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มทยอยกลับมาฟื้นตัวและมีความคึกคัก เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่มีแผนเปิดตัวโครงการมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีโครงการเปิดใหม่เฉลี่ยประมาณ 10,000 หน่วย ในไตรมาสแรกของปี 2565

ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่น่ากังวลคือการระบาดของโควิค-19 สายพันธุ์โอมิครอน และภาวะเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค รวมถึงราคาวัสดุก่อสร้างให้เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจยังชะลอตัว

ในส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือและกระตุ้นกำลังซื้อ อาทิ การลดค่าโอน-จำนอง ที่ยืดระยะเวลาออกไป เป็นมาตรการที่กระตุ้นกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ซึ่งคนกลุ่มนี้ยังเป็นกำลังซื้อหลักในช่วงเวลานี้

เมื่อพิจารณาถึงภาพรวมของราคาขายมีแนวโน้มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนในการพัฒนาของผู้ประกอบการเริ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาที่ดินรวมถึงราคาวัสดุก่อสร้าง อาจจะเริ่มเห็นหลายโครงการเปิดขายโครงการในราคาต่อตารางเมตรที่สูงขึ้นในปี 2565 และหากโครงการอยู่ในทำเลที่ดี โอกาสในการต่อราคาของผู้ซื้อจะทำได้ยากขึ้น และถึงแม้โครงการจะมีราคาขายที่สูงขึ้น แต่การพัฒนารูปแบบโครงการและอยู่ในทำเลที่เหมาะสม ก็จะเป็นตัวกำหนดให้ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อได้เช่นกัน

แนวทางการพัฒนาที่อยู่อาศัยในปี 2565 คาดว่าจะมีการออกแบบเพื่อรองรับความเป็นส่วนตัวและให้ความสำคัญในด้านสุขภาพ รวมถึงการมีเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกต่อการดำเนินชีวิตให้ง่ายขึ้น

โดยคอนโดระดับราคาตั้งแต่ 0.9-3 ล้านบาท เป็นราคาที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มเรียลดีมานด์ ซึ่งเป็นกำลังซื้อหลักในช่วงเวลานี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการที่จะเร่งระบายสต็อกออกไป โดยการทำโปรโมชันราคา เพื่อให้สอดรับกับมาตราการลดค่าโอน-จำนองของรัฐบาล เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อกลุ่มนี้ ทั้งยังเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

บิ๊กอสังหาฯ ขยายฐานต่างจังหวัด เจาะกำลังซื้อใหม่-เทรนด์ใหม่

3. บิ๊กอสังหาฯ ขยายฐานต่างจังหวัด เจาะกำลังซื้อใหม่-เทรนด์ใหม่

บิ๊กอสังหาฯ แหล่งทุนต่างจังหวัดที่มองว่าเป็นขุมทรัพย์กำลังซื้อใหม่ โดยเฉพาะโครงการแนวราบเพื่อขยายฐานลูกค้า-สร้างรายได้ และรองรับเทรนด์ทำงานยุค Post Covid แบบไฮบริดเวิร์กเพลส

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) มองว่าภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อค่อย ๆ ฟื้นตัวจากลุ่มเรียลดีมานด์ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ทำให้ต้องปรับตัวด้วยการรุกตลาดภูมิภาคมากขึ้น ตามทำเลแหล่งงาน สถานศึกษา สนามบิน และศูนย์การค้า ซึ่งมีชีวิตความเป็นอยู่ใกล้เคียงกรุงเทพฯ หลังจากโควิดระบาด เนื่องจากเริ่มมีคนส่วนหนึ่งย้ายไปทำงานและอยู่จังหวัดมากขึ้น ส่งผลให้ดีมานด์และซัพพลายเพิ่มขึ้น เพราะคนต้องการบ้านขนาดใหญ่ที่เป็นได้ทั้งที่พักอาศัยและที่ทำงานในรูปแบบบ้านพักตากอากาศ

ด้านบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ในปี 2565 มีแผนขยายสินค้าแนวราบไปทำเลปริมณฑล อย่างสมุทรปราการ, สมุทรสาคร, นนทบุรี และปทุมธานี ขณะที่บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด ลุยทำเลศรีราชา พื้นที่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางอุตสาหกรรมซึ่งเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น

บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด ชี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไตรมาสแรกปีนี้ เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว เดินหน้าลงทุน โดยให้ความสำคัญกับต่างจังหวัดต่อเนื่องในขอนแก่น พัทยา และภูเก็ต เพื่อตอบโจทย์เรียลดีมานด์ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่เองหรือซื้อเพื่อลงทุน จากโครงการทั้งแนวราบและแนวสูง แม้จะเป็นช่วงเวลาการระบาดของโควิด-19 ก็ตาม

ทั้งนี้ นอกจากดีมานด์ของคนในพื้นที่แล้ว โครงการในจังหวัดท่องเที่ยวก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าต่างชาติเช่นกัน เพื่อรองรับเทรนด์ทำงานยุคหลังโควิดเน้นทำงานแบบไฮบริดเวิร์กเพลซมากขึ้น

สรุปข่าวจากกรุงเทพธุรกิจ: บิ๊กอสังหาแห่ลงทุนต่างจังหวัดขยายฐานลูกค้า‘ไฮบริดเวิร์กเพลส’

 

4. แนะเช็กข้อมูลเครดิต ป้องกันภัยไซเบอร์-เตรียมพร้อมก่อนขอสินเชื่อ

บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า ปัจจุบันภัยไซเบอร์ทางการเงินเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสังคมดิจิทัล ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจึงควรมีสติ ระมัดระวังและมีความรู้เท่าทันกลลวง เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ทางการเงินในรูปแบบต่าง ๆ เช่น มิจฉาชีพบน Social Media อีเมล ข้อความหลอกลวง หรือขบวนการคอลเซ็นเตอร์ และการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

สิ่งสำคัญ คือ การตระหนักถึงภัยการเงินใกล้ตัวที่อาจเกิดขึ้นกับตนเองโดยไม่รู้ตัว การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตของตนเองอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นการช่วยป้องกันภัยไซเบอร์ทางการเงินและขบวนการคอลเซ็นเตอร์ที่เกิดขึ้นได้ ทำให้ทราบประวัติทางการเงินของตนเองในฐานะที่เป็นเจ้าของข้อมูลว่าถูกต้องครบถ้วนทันสมัยหรือไม่

ปัจจุบันนี้ เครดิตบูโรมีบริการตรวจเครดิตบูโรแบบสรุป (ฟรี) ได้ง่าย ๆ เพียงใช้บัตรประชาชนของตนเองที่ตู้คีออสทุกแห่ง แอป “บูโร โอเค” ที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขา และช่องทางอื่น ๆ รวมทั้งช่องทางการเข้าถึงรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าของข้อมูลเพิ่มมากขึ้น และรองรับความต้องการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของประชาชนเข้าถึงรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง

ประโยชน์ของการตรวจข้อมูลเครดิตของตนเอง นอกจากจะช่วยป้องกันภัยไซเบอร์ทางการเงินที่เกิดขึ้นกับตนเองแล้ว ยังมีความสำคัญอื่น ๆ ดังนี้

1) ช่วยเช็กว่าเรามี “หนี้งอก” โดยที่เราไม่ได้ก่อหรือไม่

2) เช็กว่าข้อมูลส่วนบุคคลในข้อมูลเครดิตถูกต้องตามความจริงหรือไม่

3) ข้อมูลสินเชื่อของเราถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องสามารถขอแก้ไขได้

4) เช็กให้ชัวร์ว่าเรามีประวัติค้างชำระหรือไม่

5) เช็กหลังจากที่จ่ายหนี้หมดแล้ว สถานะข้อมูลเครดิตขึ้นเป็นปิดบัญชี ยอดหนี้เป็นศูนย์ถูกต้องหรือไม่

6) การเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อ

ทั้งนี้ การตรวจข้อมูลเครดิตของตนเอง จะตรวจกี่ครั้งก็ได้ ไม่มีผลต่อการพิจารณาขอสินเชื่อของธนาคารหรือสถาบันการเงินแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นสิทธิพื้นฐานในการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเอง

ตรวจเครดิตบูโร…ได้ที่ไหนบ้าง

 

สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า

POST COMMENT

You may also like these articles

สรุปข่าวเด่นอสังหาฯ รอบสัปดาห์ 17-21 ม.ค. 65

จับตาปี 2565 ตลาดอสังหาฯ ท่ามกลางความท้าทาย เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ฟื้นย

Continue Reading22 Jan 2022