สรุปข่าวรอบสัปดาห์นี้ พามาดูภาพรวมเศรษฐกิจปี 2564 ตลาดอสังหาฯ เซกเมนต์ไหนมาแรง รวมถึงภาพตลาดอสังหาฯ ในปี 64 และการพัฒนาระบบคมนาคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน DDproperty รวบรวมมาอัปเดตกันที่นี่
1. เศรษฐกิจไทยปี 64 มีปัจจัยหนุน คาดขยายตัว 2.5-3.5%
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2563 หดตัว 6.1% ต่ำสุดในรอบ 22 ปี นับจากวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ซึ่งเป็นผลจากโควิด-19 ทำให้ภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างมาก
ในปี 2564 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.5 – 3.5% จากปัจจัยหนุน คือ แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก แรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภาครัฐ โดยปี 2564 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1.0-2.0% ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.3% ของจีดีพี ขณะที่การใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคภาคเอกชน คาดขยายตัว 2.0% การลงทุนโดยรวม คาดเพิ่มขึ้น 5.7% จากการเร่งเบิกจ่ายการลงทุนของภาครัฐ
ด้านการลงทุนของภาคเอกชน คาดขยายตัว 3.8% ส่วนมูลค่าการส่งออกในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ คาดขยายตัว 5.8% ดีขึ้นจากที่ลดลง 6.6% ในปี 2563 ส่วนปัจจัยทางการเมืองที่ส่งผล ยังคงต้องร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ
2. ตลาดบ้านหรู ใจกลางเมืองบูม กำลังซื้อยังแข็งแรง
เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ ชี้ตลาดบ้านหรู ใจกลางเมือง ราคาเริ่มต้น 20-100 ล้านบาท ทั้งทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 300-1,000 ตารางเมตร ความสูง 3 ชั้นขึ้นไป ขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่ เน้นพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่น ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น และดีมานด์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
จากพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยระดับบน จากคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรีเป็นบ้านใจกลางเมือง แต่ยังคงความสะดวกสบายและหรูหรา เหมือนใช้ชีวิตในตึกสูง อีกทั้งราคายังคุ้มค่าเมื่อเทียบกับทำเลและพื้นที่ใช้สอยที่ได้มากขึ้น
ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา อุปทานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มีจำนวนโครงการใหม่ 56 โครงการ รวม 796 หน่วย มูลค่าตลาดมากกว่า 40,000 ล้านบาท จากทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อยที่สนใจตลาด Niche Market
โดยทำเลที่มีการพัฒนาโครงการมากที่สุด อันดับแรก คือ เอกมัย-รามอินทรา 26% รองลงมาเป็นสาทร-พระราม 3 อยู่ที่ 21% สุขุมวิท 20% และมีแนวโน้มขยายไปรัชดา-ลาดพร้าวตอนต้น และพหลโยธิน
รวมโครงการหรูราคาแรง แพงที่สุดในปี 2563
3. REIC คาดอสังหาฯ ปี 64 มีแนวโน้มติดลบต่อเนื่อง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ปี 64 คาดว่ามีแนวโน้มติดลบต่อเนื่องจากปีที่แล้ว โดยจะมีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ประมาณ 353,236 หน่วย ลดลง 1.5% จากปี 2563 และมีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ลดลงประมาณ 876,121 ล้านบาท ติดลบ 5.6% จากปี 2563 โดยส่วนใหญ่เป็นการลดลงของที่อยู่อาศัยแนวราบ บ้านจัดสรรลดลง 7.7% และคอนโดมิเนียม ลดลง 1.4%
สาเหตุที่ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังติดลบ เนื่องจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อ คนไทยยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ประชาชนมีโอกาสหารายได้ลด ขณะที่ประชาชนบางส่วนที่มีกำลังซื้อก็ได้เร่งซื้อไปตั้งแต่ปีที่แล้วหลังผู้ประกอบการมีการแข่งจัดโปรโมชั่นกันล่วงหน้า
ขณะที่กำลังซื้อจากชาวต่างชาติปีนี้ก็ยังมีโอกาสถดถอยต่อจากปีที่แล้วที่ติดลบ 35% เช่นกัน เนื่องจากไทยยังคงมีการปิดประเทศ ไม่สามารถเดินทางไปมาหากัน ทำให้นักท่องเที่ยว นักลงทุนต่างชาติ ชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยลง
นอกจากนี้ยังมีอีกปัจจัยสำคัญ คือการปฏิเสธปล่อยกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งปีที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์มีการเพิ่มความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อบ้านมาก จนทำให้สัดส่วนการปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ ลดเหลือเพียงครึ่งเดียวของทั้งระบบ
4. คมนาคมชะลอโครงการแทรมภูเก็ต
เผยความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนภูเก็ต ช่วงสนามบินภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง (แทรม) ระยะทาง 42 กิโลเมตร กระทรวงคมนาคม สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จัดทำ Action Plan โครงการขนส่งทุกระบบภายในจังหวัดภูเก็ต และนำกลับมาเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาภายใน 1 เดือน ก่อนที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะดำเนินการโครงการแทรม เพื่อให้เกิดการบูรณาการโครงข่ายให้มีประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดภายในจังหวัดภูเก็ต
สำหรับโครงการแทรม จะต้องใช้พื้นที่ก่อสร้างบนถนน หากไม่พัฒนาถนนให้เสร็จก่อน แล้วมาสร้างแทรม จะทำให้เกิดปัญหารถติดหนักในจังหวัดภูเก็ต และไม่มีทางเลี่ยงสำหรับการเดินทางให้กับประชาชน ซึ่งในระหว่างรอให้โครงการก่อสร้างโครงข่ายทางถนนของกทพ.และทล.ดำเนินการก่อน อาจทำให้โครงการแทรมของรฟม.ต้องล่าช้าออกไปจากแผนเดิมได้
อ่านข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชะลอการสร้างแทรมภูเก็ต
5. ปรับโฉมท่าเรือเทเวศร์-ท่าช้าง เชื่อมการเดินทางไร้รอยต่อ
กรมเจ้าท่า เผยการดำเนินการปรับปรุงตามแผนพัฒนาท่าเทียบเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารพักคอย จำนวน 2 หลัง ด้วยสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกับทัศนียภาพเขตเมืองกรุงเก่า ซึ่งจะเพิ่มขนาดพื้นที่ท่าเรือ 1,941 ตารางเมตร ติดตั้งโป๊ะขนาด 6×12 เมตร จำนวน 4 โป๊ะ และ 5×10 เมตร จำนวน 2 โป๊ะ เพื่อให้ท่าเรือมีพื้นที่รองรับผู้โดยสารได้เพียงพอ ปัจจุบันงานปรับปรุงคืบหน้ากว่า 50% คาดเสร็จทันภายในเดือนเมษายน 2564
ด้านท่าเรือเทเวศร์ ท่าเรือโดยสารและเป็นจุดเชื่อมต่อสถานีเรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม มีการปรับปรุงอาคารทั้งภายใน-ภายนอก รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ พร้อมห้องน้ำชาย-หญิง และผู้พิการบนท่าเรือ
ขณะนี้คืบหน้าไปแล้วกว่า 95% จะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 โดยให้ติดตั้งเครื่องหมายและป้ายบอกทางให้ชัดเจน เพื่ออำนวยความสะดวกผู้เดินทางเชื่อมต่อสถานีเรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม (ท่าเทียบเรือตลาดเทวราช) ถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตการเดินทางรถ-ราง-เรือ แบบไร้รอยต่อในอนาคต
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการก่อสร้างท่าเรือเทเวศร์-ท่าช้าง
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
